นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 30.15 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าต่อเนื่องจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 30.17 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุก สกุลเงินหลัก หลังมีแรงเทขายดอลลาร์เพื่อไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 30.15-30.18 บาท/ ดอลลาร์ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา
"ระหว่างวันแกว่งตัวในกรอบแคบๆ รอปัจจัยใหม่เข้ามา และช่วงท้ายตลาดแข็งค่าสุดของวัน" นักบริหารเงิน กล่าว
สำหรับคืนนี้จะมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือน พ.ย.63 และดุลการค้าของสหรัฐในเดือน ต.ค.63 ซึ่งจะมีผลต่อค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่จับตาดูเกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศและต่าง ประเทศ ความคืบหน้าการเจรจาเรื่อง Brexit และสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศเกี่ยวกับการชุมนุม รวมถึงการชี้แจงรายะลเอียด มาตรการดูแลค่าเงินบาทของ ธปท.
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้าไว้ที่ 30.10-30.30 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.95 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 103.75 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2171 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2152 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,449.83 จุด เพิ่มขึ้น 11.51 จุด, +0.80% มูลค่าการซื้อขาย 82,776.88 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อ 1,207.41 ล้านบาท(SET+MAI)
- ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปใน
- ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) คาดว่า แนวโน้มราคาทองคำใน
- บริษัท PwC ประเทศไทย แนะบริษัทจดทะเบียนและนักลงทุนที่ใช้งบการเงิน ทำความเข้าใจถึงมาตรการผ่อนปรนชั่วคราว
- ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เปิดเผยว่า ธนาคารขานรับนโยบาย National e-Payment พัฒนาโครง
- รัฐสภาญี่ปุ่นอนุมัติข้อตกลงการค้าเสรีหลังการถอนอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เปิดทางให้พร้อมบังคับใช้ในวัน
- รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังวางแผนที่จะขยายโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ "Go To Travel" ไปจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย.
- บริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐคาดการณ์ว่า ทางบริษัทจะสามารถจัดส่งวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ได้เพียง