นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.14/18 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วง เช้าที่ระดับ 30.07 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทเย็นนี้อ่อนค่าจากในช่วงเช้า แต่ภาพรวมตลอดทั้งวันตลาดค่อนข้างเงียบ ปัจจัยที่ตลาดให้ความสำคัญยังคงเป็นเรื่อง การระบาดของไวรัสโควิดทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ เงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่า แต่อาจจะอ่อนไปกว่านี้ได้ไม่ มากนัก เนื่องจากการทำธุรกรรมค่อนข้างเบาบางช่วงเข้าสู่ปลายปี
"ช่วงนี้บาทก็ยังมีโอกาสอ่อนค่าได้ แต่คงไม่มากนัก เนื่องจากตลาดค่อนข้างบาง เพราะเป็นช่วงปลายปี" นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.15 - 30.25 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.45 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 103.57 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2250 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2205 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,452.67 จุด ลดลง 33.64 จุด (-2.26%) มูลค่าการซื้อขาย 103,634 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 3,014.65 ลบ. (SET+MAI)
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยในปี 64 จะขยายตัวได้ดีกว่าปีนี้แน่นอน จากทิศทางเศรษฐกิจ
หลายประเทศทั่วโลกที่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งจะส่งผลดีกับภาคการส่งออกของไทย อีกทั้งข่าวดีเรื่องความสำเร็จของวัคซีนโควิด-19 โดยกระทรวง
การคลังจะมีการปรับประมาณการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทยในปี 63 และปี 64 ใหม่อีกครั้งในเดือน ม.ค.64 ซึ่งจะต้องมีการทบทวนสมมุติฐาน
ที่มีผลกับเศรษฐกิจทั้งหมด อาทิ การท่องเที่ยว ราคาน้ำมัน และตัวเลขส่งออก เป็นต้น
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เผยเศรษฐกิจไทยในเดือน พ.ย.63 มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดย
เฉพาะการผลิตภาคอุตสาหกรรม การส่งออกสินค้า และการบริโภคภาคเอกชน สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่ปรับตัว
ดีขึ้นต่อเนื่อง จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐในช่วงปลายปี
- นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ปี 2564 โดยคาดว่า
GDP จะขยายตัว 6.5% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 6.0% ส่วนในปี 2563 ตัวเลข GDP เวียดนามมีแนวโน้มชะลอตัวลงสู่ระดับ 2.91%
ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปี เนื่องจากผลกระทบการระบาดของโควิด-19 ประกอบกับปัจจัยด้านภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในประเทศและ
เศรษฐกิจซบเซาทั่วโลก
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานสรุปมุมมองของกรรมการบริหาร BOJ ในการประชุมครั้งล่าสุด โดย
กรรมการ BOJ บางรายต้องการให้แบงก์ชาติดำเนินโครงการรับซื้อสินทรัพย์ขนาดใหญ่ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น หลังถูกวิจารณ์ว่านโยบายดัง
กล่าวทำให้ตลาดบิดเบือน โดยในการประชุมเมื่อวันที่ 17-18 ธ.ค. BOJ ได้ตัดสินใจทบทวนข้อมูลในเดือนมี.ค. เพื่อหาแนวทางที่ดีกว่าใน
การบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อให้ได้ตามเป้า 2% ซึ่งนับวันยิ่งยากขึ้น หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจทรุดตัว
- องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) เผยผลสำรวจล่าสุดจากบริษัทญี่ปุ่นในต่างประเทศกว่า 80% คาด
ว่ากิจกรรมทางธุรกิจของบริษัทจะกลับสู่ปกติภายในสิ้นปี 2564 หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมาตรการชัตดาวน์ได้ฉุดเศรษฐกิจโลก
ลงสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา