คลังเสนอ ครม.ทบทวนมติยกเลิกแผนลงทุนสร้างโรงยาสูบสมัยรัฐบาลทักษิณ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 4, 2007 08:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          กระทรวงการคลังเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณายกเลิกโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่ที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งมติ ครม.เดิมกำหนดวิธีจัดหาผู้รับจ้างแบบรัฐบาลต่อรัฐบาลระหว่างไทยกับจีน ซึ่งบริษัท ไชน่า ยูนาน คอร์ปอเรชั่น ฟอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เทคโน-อีโคนอมิก คอร์ปอเรชั่น(ซีวายซี) เป็นผู้ดำเนินโครงการดังกล่าว เนื่องจากผลการเจรจาเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไม่สามารถหาข้อยุติได้
"เงื่อนไขที่บริษัทเสนอไม่เป็นไปตามร่างทีโออาร์เดิม รวมทั้งขอยกเว้นการปฏิบัติตามกฏหมายและระเบียบราชการไทย เช่น การขอลดค่าปรับ การไม่ใช้เรือไทย อีกทั้งราคาของโครงการที่บริษัทฯ เสนอสูงกว่าที่ ครม.อนุมัติไว้ ขณะเดียวกันคณะกรรมการอำนวยการโรงงานยาสูบเห็นว่าศักยภาพของบริษัทซีวายซีอาจไม่สอดคล้องความต้องการและเป้าหมายของโรงงานยาสูบที่ต้องการดำเนินโครงการมีประสิทธิภาพจึงควรยกเลิกการก่อสร้างโรงงานยาสูบที่เชียงใหม่" แหล่งข่าว กล่าว
นอกจากนี้กระทรวงการคลังยังขอให้ยกเลิกการกำหนดให้มีมาตรการการค้าต่างตอบแทนสำหรับโครงการดังกล่าว
ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังจะขออนุมัติหลักการให้โรงงานยาสูบปรับแผนงานโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่ให้เหมาะสมกับสภาพธุรกิจปัจจุบัน โดยเฉพาะเรื่องของสถานที่เพื่อลดการสร้างภาระให้พนักงาน การลดค่าใช้จ่ายด้านการขนส่ง โดยมีวงเงินลงทุนไม่เกินจากที่ ครม.อนุมัติไว้เดิมจำนวน 21,770.80 ล้านบาท และให้โรงงานยาสูบคงเงินที่กันไว้แล้ว 6,850 ล้านบาท เมื่อมีการศึกษาและปรับแผนงานเสร็จแล้วให้เสนอขออนุมัติจาก ครม.อีกครั้งหนึ่ง
"คณะกรรมการฯ ระบุว่าโรงงานยาสูบต้องผลิตบุหรี่เพื่อแข่งขันกับบุหรี่นำเข้า หากไม่มีการปรับปรุงและพัฒนาในทุกด้านอาจทำให้เสียส่วนแบ่งตลาดเร็วขึ้น โดยในปี 49 โรงงานยาสูบมีส่วนแบ่งตลาด 77.45 % และบุหรี่ต่างประเทศ 22.55% ซึ่งการใช้เครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีทันสมัยจะเป็นส่วนทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ลดการสูญเสีย ลดต้นทุนการผลิต" แหล่งข่าว กล่าว
ทั้งนี้ มติ ครม.เดิมเมื่อวันที่ 26 ส.ค.46 และ 26 ต.ค.47 เห็นชอบให้ย้ายโรงงานยาสูบไปอยู่ส่วนภูมิภาคและพัฒนาพื้นที่เดิมเป็นสวนสาธารณะเบญจกิตติ โดยเห็นชอบวงเงินก่อสร้าง 17,115 ล้านบาท ประกอบด้วย โรงงานยาสูบ จ.เชียงใหม่ 13,094 ล้านบาท และโรงงานยาสูบในนิคมอุตสาหกรรมหนองแค จ.สระบุรี 3,200 ล้านบาท และสำรองราคา 821 ล้านบาท และต่อมาได้มีการปรับวงเงินลงทุนที่ จ.เชียงใหม่ เป็น 17,749.80 ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมก่อสร้างทั้งสองแห่งเป็น 21,770.80 ล้านบาท
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ โดยปรับมูลค่าโครงการเพิ่มจาก 1,000 ล้านบาทเป็น 3,000 ล้านบาท, นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอการบูรณาการแผนงานและงบประมาณระดับท้องถิ่นและระดับจังหวัด, กระทรวงยุติธรรมรายงานการแก้ไขปัญหาการทุจริตการคอร์รัปชั่น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ