ตลาดหุ้นเอเชียพากันร่วงหลังอัตราจ้างงานสหรัฐหดจุดกระแสวิตกเศรษฐกิจ

          ตลาดหุ้นหลายแห่งในภูมิภาคเอเชียพากันร่วงลงในวันนี้ (10 ก.ย.) หลังจากที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ และก่อให้เกิดความวิตกกังวลว่า ปัญหาต่างๆในภาคการปล่อยกู้จำนองแก่ลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือต่ำของสหรัฐได้เริ่มที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้างแล้ว
          นอกจากนี้ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่นที่อ่อนตัวลงกว่าคาดการณ์และค่าเงินเยนที่แข็งขึ้นทำให้เกิดแรงกดดันในตลาดมากขึ้น
          สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวลง 2.1% ส่วนดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ตกลงมากที่สุดในบรรดาตลาดหุ้นเอเชีย โดยร่วงลงมากกว่า 3%
          เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐได้รายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนส.ค.ร่วง 4,000 ราย นับเป็นสถิติที่ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2546 โดยตัวเลขดังกล่าวยังอยู่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ว่าจะขยายตัวสูงกว่า 100,000 ราย
          นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า ตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอของสหรัฐเป็นเหตุผลสำคัญที่อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18 ก.ย. โดยข้อมูลจ้างงานดังกล่าวได้มีการเปิดเผยเพียงหนึ่งวันหลังจากที่เจ้าหน้าที่ของเฟดได้พยายามลดกระแสการคาดการณ์ในตลาดเรื่องการลดดอกเบี้ย
          นายปาร์ก ซัง ยุน นักวิเคราะห์ของซีเจ อินเวสท์เมนท์ แอนด์ ซิเคียวริตี้ส์ กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวจุดชนวนให้เกิดกระแสวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐและเป็นเป้าความสนใจของตลาด ขณะนี้เทรดเดอร์ไม่ได้คาดว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ แต่แต่เปลี่ยนมาคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลงเท่าใด
          ขณะที่นักวิเคราะห์ของยูบีเอสคาดว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยลง 0.75% ภายในสิ้นปีนี้ เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.50%