ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 30.16 ทรงตัวจากช่วงเช้าตามทิศทางภูมิภาค ตลาดไร้ปัจจัยใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 12, 2021 17:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 30.16 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวในระดับ เดียวกับเปิดตลาดเมื่อเช้า เนื่องจากยังไม่ปัจจัยใหม่เข้ามา ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวไปตามแรงซื้อ-ขายในกรอบ 30.05-30.20 บาท/ดอลลาร์ โดยคืนนี้ตลาดรอดูความเคลื่อนไหวเรื่องบอนด์ยีลด์สหรัฐ

"บาทปิดตลาดทรงตัวตามภูมิภาค ระหว่างวันแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ตามแรงซื้อแรงขาย เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา"
นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 30.05-30.20 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.15 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 104.13 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2161 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.2156 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,539.85 จุด เพิ่มขึ้น 3.36 จุด, +0.22% มูลค่าการซื้อขาย 90,163.85 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 918.82 ล้านบาท (SET+MAI)
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบในหลักการมาตรการเยียวยาและบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
รอบใหม่ โดยในส่วนที่เกี่ยวกับการลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน มี 2 ส่วน ประกอบด้วย มาตรการช่วยเหลือด้านแรงงาน, มาตรการลดค่า
สาธารณูปโภค ค่าไฟฟ้า ค่าพลังงาน และค่าน้ำประปา
  • กระทรวงการคลัง ขยายมาตรการเสริมสภาพคล่อง (สินเชื่อและค้ำประกันสินเชื่อ) และมาตรการบรรเทาภาระหนี้สิน
(พักชำระหนี้) ลดผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่
  • กระทรวงการคลัง จะเปิดลงทะเบียนโครงการ"คนละครึ่ง" รอบเก็บตก รวม 1 ล้านสิทธิ ซึ่งมาจากโครงการคนละครึ่ง
ระยะที่ 1 ยังมีสิทธิคงเหลือ 5 แสนสิทธิ และจากโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ซึ่งมาจากผู้ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติ และผู้ที่ได้รับสิทธิแล้วแต่ไม่
ใช้จ่ายภายใน 14 วันแรกที่ถูกตัดสิทธิไป รวมอีก 5 แสนสิทธิ โดยจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาให้ความ
เห็นชอบในสัปดาห์หน้า (19 ม.ค.) คาดว่าภายหลังจากที่ ครม.ให้ความเห็นชอบแล้ว จะเปิดให้ประชาชนได้เริ่มลงทะเบียนได้ในวันที่
20 ม.ค.64 และคาดว่าจะเริ่มใช้สิทธิในโครงการคนละครึ่งรอบเก็บตกนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.64 เป็นต้นไป
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับประชาชนที่ได้รับประโยชน์จากโครงการ
ต่าง ๆ ที่เป็นมาตรการของรัฐ ไม่ว่าจะเป็น มาตรการชดเชยรายได้ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบ หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบ
อื่นๆ จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19, โครงการเราเที่ยวด้วยกันที่ภาครัฐช่วยค่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทาง และคูปองต่าง ๆ,
โครงการกำลังใจ และ โครงการคนละครึ่ง การยกเว้นภาษีดังกล่าวจะทำให้การจัดเก็บรายได้ของภาครัฐหายไปราว 3.3 หมื่นล้านบาท
  • รมว.คลัง หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแผนหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2564 ครั้งที่ 1 ให้สอดคล้อง
ตามแผนการกู้เงินและแผนบริหารหนี้สาธารณะประจำปีตามปกติ รวมทั้งแผนการกู้เงินตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อ
แก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 หรือ
พ.ร.ก.กู้เงิน วงเงินไม่เกิน 1 ล้านล้านบาท
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจงการเคลื่อนไหวของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนที่ผ่านมาต่ำกว่ากรอบเป้า
หมายนโยบายการเงินว่า ว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ติดลบไม่ได้เป็นสัญญาณของภาวะเงินฝืด โดย กนง. ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะ
กลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายได้ในช่วงกลางปี 64 ตามแรงสนับสนุนเงินเฟ้อด้านอุปสงค์และอุปทานที่ทยอยเพิ่มขึ้น
  • ธปท.ขยายเวลาให้ลูกหนี้รายย่อยสมัครรับความช่วยเหลือได้จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.64 (จากเดิมที่ครบกำหนดในวันที่ 31 ธ.
ค.63) โดยลูกหนี้สามารถสมัครขอรับความช่วยเหลือด้วยตนเอง หรือนายจ้างหรือเจ้าของกิจการสมัครขอรับความช่วยเหลือแทนลูกหนี้ได้
เช่น ในกรณีสินเชื่อสวัสดิการ โดยต้องได้รับความยินยอมจากลูกหนี้ที่เป็นพนักงานหรือลูกจ้าง เพื่อให้การขอรับความช่วยเหลือของลูกหนี้เป็น
ไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันเหตุการณ์
  • ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 64 เหลือเติบโต 2% จากเดิม 3.5% จากการแพร่
ระบาดโควิด-19 รอบใหม่ในประเทศที่ยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่กลางเดือน ธ.ค.63 ส่งผลให้มีการ
ควบคุมสั่งปิดสถานที่เสี่ยงบางประเภทจากภาครัฐ เพื่อป้องกันขยายวงกว้างของการแพร่ระบาด ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและธุรกิจ
ต่างๆที่เพิ่งจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงปลายปีที่ผ่านมาให้กลับทรุดลง หรือยืดระยะเวลาการฟื้นตัวออกไป
  • องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้คำมั่นเร่งเดินหน้าการฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ทั่วโลกให้มีความปลอดภัยและมี
ประสิทธิภาพ รวมถึงการจัดสรรวัคซีนอย่างเท่าเทียมกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ