นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.05/09 บาท/ดอลลาร์ กลับมาแข็งค่า จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.19/21 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทกลับมาแข็งค่าจากช่วงเช้า ซึ่งคาดว่าเป็นผลจากมีแรงขายดอลลาร์ เพื่อทำกำไรของนักลงทุน ในขณะที่ปัจจัยอื่นๆ ไม่ ได้มีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันนี้มากนัก โดยระหว่างวัน เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.04 - 31.20 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทกลับมาแข็งค่าในช่วงท้ายๆ ตลาด จริงๆ วันนี้ไม่ได้มีข่าวอะไรเลย น่าจะเป็นเพราะแรงขายดอลลาร์เพื่อทำกำไร มากกว่า" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า ต้นสัปดาห์หน้าเงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่า ให้กรอบการเคลื่อนไหวที่ 31.00 -31.20 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.39 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.20 บาท/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1780/1795 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1783 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,574.86 จุด เพิ่มขึ้น 3.82 จุด (+0.24%) มูลค่าการซื้อขาย 74,487 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 836.81 ลบ. (SET+MAI)
- นายกรัฐมนตรี ขอทุกฝ่ายทั้งหน่วยงานรัฐ เอกชน ภาคธุรกิจ เร่งรัดการลงทุน ขณะเดียวกันก็หวังให้ภาคประชาชนที่มีเงิน
ออม นำเงินออมส่วนหนึ่งออกมาใช้จ่าย เพื่อช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจของประเทศในปี 64-65 เติบโตได้ถึง 4% ตามเป้าหมาย
- ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) วันนี้เห็น
ชอบในหลักการแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วของจังหวัดภูเก็ต ตามข้อเสนอของ ททท. ที่จะอนุญาตให้นัก
ท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนที่ได้รับการยอมรับแล้วและมีผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบ สามารถเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตโดยตรง
ผ่านเครื่องบิน และสามารถท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตได้โดยไม่ต้องกักตัว โดยมีกำหนดเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 ก.ค.64
- ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
ในตลาด TFEX เปิดเผยว่า แม้ในระยะสั้นและระยะกลางราคาทองคำในตลาดโลกยังผันผวนและยังเป็นการแกว่งตัวลง แต่อย่างไรก็ตาม
ในระยะยาวปีนี้ยังมองว่าทองคำยังเป็นขาขึ้น
- ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความสำเร็จของโครงการคนละครึ่ง
ว่า ณ วันที่ 25 มี.ค.64 โครงการดังกล่าวมียอดการใช้จ่ายสะสม 100,042 ล้านบาท
- กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า ธนาคารประสบความสำเร็จ ในการออกตราสารทางการ
เงินที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Additional Tier 1) ตามหลักเกณฑ์ Basel III มูลค่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อัตรา
ดอกเบี้ย 4.40% ต่อปี โดยเป็นตราสารด้อยสิทธิไม่มีกำหนดชำระคืน ธนาคารสามารถไถ่ถอนได้ก่อนกำหนดเมื่อตราสารมีอายุครบ 5 ปี
โดยเสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบันในต่างประเทศ
- ธนาคารโลก คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวแซงหน้าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ขณะที่
อีกหลายประเทศในภูมิภาคนี้ ยังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก เนื่องจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาด
- ธนาคารกลางจีนคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพโดยปราศจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ หรือที่เรียก
ว่าศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ (potential growth rate) ที่ระดับต่ำกว่า 6% ในอีก 5 ปีข้างหน้า
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศว่า เฟดมีแนวโน้มจะยกเลิกข้อจำกัดเกี่ยวกับการจ่ายเงินปันผล และการซื้อหุ้นคืนของ
ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ในเดือนมิ.ย.ปีนี้ หลังจากการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) รอบใหม่เสร็จสิ้นลง แต่หากธนาคารรายใดไม่
สามารถผ่านการทดสอบ Stress Test จะต้องรอจนถึงวันที่ 30 ก.ย. และอาจจะเผชิญกับมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น หากยังคงไม่
สามารถบรรลุข้อกำหนดด้านเงินทุนเมื่อถึงเวลานั้น
- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยให้คำมั่นว่าจะทุ่มงบประมาณให้มากกว่าจีนในด้านการ
พัฒนานวัตกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อไม่ให้จีนก้าวขึ้นมาเป็นประเทศผู้นำที่ทรงอำนาจอันดับหนึ่งของโลกแทนสหรัฐ
- ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีกำหนดจะเปิดเผยในสัปดาห์หน้า ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค., ตัวเลขการจ้าง
งานภาคเอกชนเดือนมี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ เป็นต้น