นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีกระทรวงการคลังรายงานความเสี่ยงทางการคลังประจำปี 63 ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ว่า เป็นการรายงานประจำปีปกติ ซึ่งเป็นข้อกฎหมาย ตามมาตรา 78 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ที่กำหนดไว้ว่า ภายในเดือน มี.ค.ของทุกปี กระทรวงการคลังต้องมีการประเมินความเสี่ยงที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ทั้งจากผลกระทบจากเศรษฐกิจมหภาค ระบบการเงิน นโยบายรัฐบาล และผลการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ ที่อาจก่อให้เกิดภาระทางการคลังของรัฐบาลและแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยง เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบ โดยยืนยันว่าเป็นการรายงานปกติประจำปี ไม่ใช่เพราะประเทศไทยเกิดความเสี่ยงทางการคลังแล้วจึงมารายงาน
นายอนุชา กล่าวว่า การประเมินความเสี่ยงนี้ กระทรวงการคลังแจ้งว่า สถานการณ์ยังอยู่ระดับปกติ สอดคล้องกับอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรของรัฐบาลที่ยังอยู่ระดับเดียวกันก่อนที่เกิดแพร่ระบาดโควิด-19
สำหรับในส่วนการจัดเก็บรายได้ในช่วง 5 เดือนแรกประจำปีงบประมาณ 2564 ที่จัดเก็บรายได้ได้ต่ำกว่าเป้า เป็นเพราะสภาวะเศรษฐกิจหดตัว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รวมถึงการขยายเวลาชำระภาษี ทำให้รายได้ภาษีบางส่วนในเดือน ก.พ. ย้ายไปชำระในเดือนมี.ค. ปี 64 แทน
พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลยังไม่มีแนวคิดปรับเพิ่มภาษีมูลค่า (VAT) จากปัจจุบันที่เก็บอยู่ที่ 7% เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและเพื่อไม่ให้เป็นภาระของประชาชนเกินไป