ยาซูฮิโร่ ทากาฮาชิ นักเศรษฐศาสตร์ของโนมูระ ซิเคียวริตี้ส์ ไฟแนนเชียล แอนด์ รีเสิร์ช กล่าวว่า ผลการสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจของบริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นในไตรมาส 3 ฟื้นตัวขึ้น แต่ความผันผวนในตลาดเงินที่เกิดขึ้นเพราะวิกฤติซับไพรม์ในสหรัฐอาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลงในอนาคตอันใกล้นี้
ญี่ปุ่นได้รายงานดัชนีความเชื่อมั่นในบริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นดังกล่าวในไตรมาส 3 ปรับตัวสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส เนื่องจากอุปสงค์อุปกรณ์ก่อสร้างและยานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สดใสในต่างประเทศ
ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของบริษัทขนาดใหญ่ดีดตัวขึ้นแตะ +6.2 ในไตรมาส 3 จากระดับ -0.9 ในไตรมาส 2
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ทากาฮาชิ กล่าวว่า ผลการสำรวจชี้ว่าความเชื่อมั่นในภาคบริษัทเอกชนฟื้นตัว แต่ก็ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปเรื่องความเชื่อมั่นของบริษัทเหล่านี้ เนื่องจากยังมีความเป็นไปได้ที่ปัจจัยต่างๆ เช่น ค่าเงินเยนที่แข็งแกร่งขึ้น และตลาดหุ้นที่อ่อนตัวในช่วงที่เกิดปัญหาซับไพรม์ ราคาน้ำมันดิบสูงก็อาจจะเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นเช่นกัน
ผลการสำรวจชี้ว่า การใช้จ่ายเงินทุนในไตรมาส 3 ของบริษัทเอกชนคาดว่าจะขยายตัว 1.5% ต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ว่าจะขยายตัว 3.3% เนื่องจากการใช้จ่ายที่ลดลงในธุรกิจเช่าซื้อ เนื่องจากราคาอุปกรณ์ที่ซื้อมาปล่อยเช่านั้นสูงขึ้น
ทากาคาชิกล่าวว่า ผลสำรวจเรื่องการใช้จ่ายเงินทุนชี้ให้เห็นว่า บริษัทมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ เนื่องจากการใช้จ่ายเงินทุนของบริษัทจะเกี่ยวพันกับการส่งออก แม้ว่าเศรษฐกิจยุโรปและเอเชียจะแข็งแกร่ง แต่ความผันผวนด้านการเงินในยุโรป เศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเอเชีย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--