นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.35 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.25/27 บาท/ดอลลาร์
ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.25-31.36 บาท/ดอลลาร์ การเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางอ่อนค่าได้อีก เนื่อง จากตลาดรับข่าวการระบาดของโควิดในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มก้อนของสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ ที่ค่อนข้างจะรวดเร็ว
"ตลาดรับข่าวโควิดในประเทศ นักลงทุนกังวลการระบาดในกรุงเทพฯ ที่แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว" นักบริหารเงินระบุ
ขณะที่คืนนี้ นักลงทุนจับตาบันทึกรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.30-31.45 บาท/ดอลลาร์ และมีแนวโน้มจะอ่อนค่าได้อีก
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.81 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.62/65 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1885 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1874/78 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,556.56 จุด ลดลง 23.10 จุด (-1.46%) มูลค่าการซื้อขาย 107,774 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,017.12 ลบ. (SET+MAI)
- หมอยง ห่วงสถานการณ์โควิดช่วงสงกรานต์ปีนี้ จะระบาดอย่างรวดเร็วได้ถึง 100 เท่า เนื่องจากปีนี้ไม่ได้มีการประกาศ
ล็อกดาวน์ คุมเข้มการเดินทาง หรือปิดห้างร้านดังเช่นในปีก่อน ขณะที่ปีนี้พบไวรัสกลายพันธุ์ คือ สายพันธุ์อังกฤษ ที่ทำให้การแพร่กระจาย
ของเชื้อไวขึ้นกว่าสายพันธุ์เดิม 1.7 เท่า ซึ่งล่าสุดตรวจพบไวรัสสายพันธุ์อังกฤษจากนักเที่ยวย่านทองหล่อแล้วถึง 24 คน
- "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" รมว.คมนาคม แจ็คพอตติดโควิด เป็นรายแรกของครม. ทำภูมิใจไทย ยกพรรครีบตรวจหาเชื้อโค
วิด พร้อมกักตัว 14 วัน
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) โดยปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบ
โตของเศรษฐกิจจีนในปี 2564 ขึ้นเป็น 8.4% ซึ่งเป็นผลจากการที่มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของ
เศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่ง
- ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมวันนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่า
ธนาคารกลางยังคงเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้นจะฉุดเศรษฐกิจ
ของอินเดียให้ชะลอตัวลงอีก หลังจากเพิ่งฟื้นตัวได้ไม่นาน
- นักลงทุนจับตารายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำเดือนมี.ค. ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธตามเวลา
สหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติเอกฉันท์คง
อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 16-17 มี.ค. และส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนถึง
ปี 2566
- ข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดุลการค้าเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
รายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.พ.