แผนกสถิติของมาเลเซีย เปิดเผยว่า มาเลเซียผลิตยางพาราธรรมชาติเดือนกรกฎาคมลดลง 16.9% จากระดับปีก่อนหน้านี้ สู่ระดับ 104,286 ตัน อย่างไรก็ดี ยอดการผลิตดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากระดับเดือนมิถุนายน 5.9%
สัดส่วนผลผลิตยางจากผู้ผลิตรายย่อยคิดเป็น 94.1% ของการผลิตทั้งหมด ขณะที่ผู้ผลิตในรูปแบบสวนขนาดใหญ่คิดเป็น 5.9% โดยยอดการผลิตทั้งหมดช่วง 7 เดือนแรกมีจำนวน 694,392 ตัน ลดลง 5.7%
ด้านยอดส่งออกยางพาราธรรมชาติของมาเลเซียร่วงลง 9.3% แตะระดับ 77,783 ตัน และลดลงจากเดือนมิถุนายน 4.1% โดยการส่งออกของ สแตนดาร์ด มาเลเซียน รับเบอร์ คิดเป็น 93.5% ของการส่งออกทั้งหมด
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า จีน เยอรมนี เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส บราซิล และโปรตุเกส ต่างเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุด 7 อันดับของตลาดยางพารามาเลเซีย ซึ่งทั้ง 7 ตลาดรวมกันคิดเป็นสัดส่วน 69.8% ของการส่งออกทั้งหมด
นอกจากนี้ มาเลเซียได้นำเข้ายางพาราธรรมชาติเพิ่มขึ้น 11% จากเดือนมิถุนายน แตะที่ 51,996 ตัน แต่ลดลงจากปีก่อนหน้า 4.5% ซึ่งมาเลเซียใช้ยางพาราคิดเป็นสัดส่วน 37,006 ตันในเดือนกรกฎาคม หรือเพิ่มขึ้นจากเดือนมิ.ย. 5.7%
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมถุงมือยางยังคงเป็นลูกค้ารายสำคัญของยางพาราในประเทศมาเลเซีย โดยระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้รับซื้อยางไปแล้ว 65.3% ของการบริโภคทั้งหมดในประเทศ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ฤดี ภวสิริพร/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--