กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น หลังจากที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นชะลอตัวในช่วงไตรมาสที่สอง จากปัจจัยลบด้านการลงทุนและการอุปโภคบริโภคที่ซบเซา นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังได้รับผลกระทบจากภาวะผันผวนที่เกิดขึ้นกับตลาดการเงินทั่วโลก ซึ่งส่งผลบดบังแนวโน้มการขยายตัวเศรษฐกิจในระยะสั้น
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกครั้งล่าสุดนั้น IMF ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่นจากระดับ 2.6% เหลือเพียง 2% ในปีนี้ และจากระดับ 2% เหลือเพียง 1.7% ในปีหน้า ซึ่งลดลงจากที่ IMF คาดการณ์ไว้ในเดือนก.ค.ถึง 0.6% และ 0.3% ตามลำดับ
"เมื่อดูจากผลสำรวจทังกันในเดือนก.ย.บ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในญี่ปุ่นยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งสอดคล้องกับภาคการส่งออกส่วนใหญ่ที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง แต่จากตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุด อาทิ อัตราการอุปโภคบริโภคภาคครัวเรือน บ่งชี้ว่า อุปสงค์ภายในประเทศ ยังมีความผันผวน" IMF กล่าว
ขณะเดียวกัน การขยายตัวด้านค่าแรงที่เพิ่มขึ้นอาจเป็นปัจจัยกระตุ้นการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคมากขึ้น แต่ปัจจัยดังกล่าวอาจถูกบั่นทอนจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่เผชิญช่วงขาลง ประกอบกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูง และสถานการณ์เงินเยนแข็งค่า
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตลาดแรงงานที่ตึงตัว ซึ่งเห็นได้จากอัตราว่างงานเดือนส.ค.ที่อยู่ในระดับ 3.8% อาจช่วยให้การขยายตัวด้านรายได้และทำให้ยอดการอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ผลประกอบการที่สดใสและงบดุลบัญชีของบริษัทที่แข็งแกร่งน่าจะมีส่วนช่วยเอื้อประโยชน์ต่อภาคการลงทุนของบริษัทเอกชน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์:
[email protected]