ฮิโรโกะ โอตะ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของญี่ปุ่นกล่าวในวันนี้ว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างที่อยู่อาศัยในญี่ปุ่นที่ลดลงเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งเป็นผลมาจากกฎข้อบังคับเกี่ยวกับมาตรฐานด้านการก่อสร้างที่เข้มงวดมากขึ้นนั้น อาจส่งผลกระทบกับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่น "หากพิจารณาจากตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านที่ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ผมคิดว่านั่นอาจส่งผลกระทบในแง่ลบต่อตัวเลข GDP ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศ" โอตะกล่าวต่อผูสื่อข่าว ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของญี่ปุ่นในเดือนก.ย.ร่วงลง 43.3% นับเป็นสถิติร่วงลงต่ำสุดในรอบ 42 ปี เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานการสร้างที่อยู่อาศัยฉบับใหม่ที่มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้การขออนุมัติเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยจากผู้สร้างล่าช้า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านในเดือนส.ค.ลดลงจากระดับในเดือนก.ค.ที่ 23.4% นับเป็นสถิติปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เมื่อเทียบเป็นรายปี กฎข้อบังคับที่เข้มงวดขึ้นมีขึ้นเพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัย หลังจากที่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลในปี 2548 เกี่ยวกับการสร้างคอนโดมิเนียมจำนวนมากที่ไม่ได้มาตรฐานในการรองรับแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้ โอตะกล่าวว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านที่ทรุดลงอย่างหนักนั้นเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนการก่อสร้าง มิใช่มาจากความต้องการสร้างบ้านลดลง "เราจำเป็นต้องจับตาดูว่าตัวเลขการเริ่มก่อสร้างบ้านในประเทศจะลดลงเพียงชั่วคราว หรือจะเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกหรือไม่" เธอกล่าว สำนักข่าวเกียวโดรายงาน