SCBEIC คาดส่งออกไทยปีนี้โต 15% ตามศก.โลกฟื้นตัว จับตาโควิดรอบใหม่กดดัน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 25, 2021 10:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

SCBEIC คาดส่งออกไทยปีนี้โต 15% ตามศก.โลกฟื้นตัว จับตาโควิดรอบใหม่กดดัน

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินว่า การส่งออกไทยในปี 64 จะขยายตัวได้ 15% ในช่วงที่เหลือของปี 64 การส่งออกไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว โดยคาดว่าเดือน มิ.ย. จะเป็นอีกเดือนที่การส่งออกจะขยายตัวสูงจากปัจจัยฐานต่ำ ก่อนที่อัตราเติบโตจะทยอยปรับลดลง

ทั้งนี้ ต้องติดตามความเสี่ยงของการระบาดรอบใหม่ในหลายประเทศ โดยเฉพาะในอาเซียน ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย โดยเศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ตามความคืบหน้าในการฉีดวัคซีน ซึ่งจะส่งผลทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เป็นผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในหลายประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและจีน ที่คาดว่าจะมีพัฒนาการด้านการฉีดวัคซีนที่มากกว่ากลุ่มประเทศด้อยและกำลังพัฒนา

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสถานการณ์ล่าสุดของจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลก จะปรับลดลงจากยอดสูงสุดในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ในช่วงหลัง หลายประเทศเริ่มมีการระบาดมากขึ้นจากไวรัสสายพันธุ์อินเดีย สะท้อนจากจำนวนผู้ติดเชื้อเฉลี่ยรายวันช่วงล่าสุด (เฉลี่ยวันที่ 1-19 มิ.ย.) ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงเดือนพ.ค. โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียน ซึ่งเป็นคู่ค้าหลักของไทย ทั้งนี้ต้องติดตามต่อไปว่าการระบาดที่เกิดขึ้นจะลุกลามจนกลายเป็นการระบาดระลอกใหม่ และจะกระทบต่อภาคการส่งออกของโลกและของไทยหรือไม่

นอกจากนี้ การส่งออกของไทย ยังมีปัจจัยกดดันต่อเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) และตู้คอนเทนเนอร์ โดยการขาดแคลนชิปในช่วงปัจจุบันเกิดจากหลายปัจจัย ได้แก่ การหยุดการผลิตในช่วงก่อนหน้าที่มีการระบาดของโควิด-19 ในปีก่อน ประกอบกับความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มมากขึ้น ตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ปัญหาภัยแล้งในไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลก รวมถึงการแย่งชิงสต็อกชิป เนื่องจากการแบ่งขั้วเทคโนโลยีระหว่างจีนและสหรัฐฯ

"การขาดแคลนชิป ได้ส่งผลกระทบต่อหลายอุตสาหกรรม เช่น โทรศัพท์มือถือ เครื่องเกมส์ และอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นต้น โดยปัญหาดังกล่าว จะยังเป็นปัจจัยเสี่ยง และปัจจัยกดดันต่อเนื่องต่อภาคการส่งออกของไทยและของโลกในช่วงที่เหลือของปี" บทวิเคราะห์ระบุ

ขณะที่ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ล่าสุดได้ปรับตัวแย่ลงอีกครั้งจากการระบาดระลอกใหม่ทางตอนใต้ของจีน โดยในช่วงก่อนหน้า การฟื้นตัวของภาวะการค้าโลกที่เริ่มปรับสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 63 ขณะที่หลายท่าเรือของทางฝั่งอเมริกาและยุโรปยังไม่สามารถดำเนินการได้จากการระบาดของโควิด-19 จึงทำให้การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์เป็นปัญหาเรื่อยมา

ต่อมาเกิดวิกฤตการณ์เรือขวางคลองสุเอซในเดือนมี.ค.64 จึงยิ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยซ้ำเติมให้สถานการณ์แย่ลง และล่าสุดปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่ในมณฑลกวางตุ้งของจีน ได้ทำให้เกิดความล่าช้าในการบริหารจัดการสินค้าของท่าเรือเหยียนเทียน และท่าเรือกว่างโจว ซึ่งเป็นท่าเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นลำดับ 3 และ 5 ของโลก จึงทำให้สถานการณ์ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ตึงเครียดเพิ่มเติม สะท้อนจากราคาระวางเรือ (Freight) ที่กลับมาปรับเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งในช่วงหลัง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ