(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.81 อ่อนค่าสวนทางภูมิภาค กังวลโควิดในปท.หลังรัฐออกมาตรการกึ่งล็อกดาวน์

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 28, 2021 11:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เช้านี้เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 31.81 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิด ตลาดเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 31.77 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากปัจจัยในประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโค วิด-19 ที่ยังควบคุมไม่ได้ โดยตลาดกังวลผลกระทบที่มีต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หลังจากรัฐบาลออกมาตรการกึ่งล็อคดาวน์

"บาทอ่อนค่าสวนทางกับภูมิภาคที่มีทิศทางแข็งค่า เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายในประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด- 19 ที่อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศค่อนข้างนิ่ง" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 31.75 - 31.90 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (25 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.19801% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.25208%

SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 31.87750 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.72 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 110.73 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1932 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1941 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.785 บาท/ดอลลาร์
  • ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติด
เชื้อรายใหม่รวม 5,406 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 5,397 ราย และจากเรือนจำ 9 ราย มีผู้เสียชีวิต 22 ราย และรักษาหายกลับบ้าน
แล้ว 3,343 ราย ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศระลอกใหม่อยู่ที่ 220,990 ราย หายป่วยสะสม จำนวน 174,845 ราย
  • ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่า มาตรการสกัดโควิด-19 ที่รัฐบาลออกมาล่าสุดนี้เป็นการ
เพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นแต่ยังไม่ถึงกับ "ล็อกดาวน์" ปิดพื้นที่ เพื่อลดความเสียหายด้านเศรษฐกิจ และเพิ่มความสามารถในการควบคุม
โรค ได้มากขึ้น ซึ่งภาคเอกชน และประชาชนจะต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพื่อควบคุมการระบาดให้ได้ แต่ทั้งนี้หากยังไม่ได้ผล
รัฐบาลก็อาจจะขยายไปสู่การล็อกดาวน์ บางธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง ภาคเอกชนจะต้องเตรียมรับมือกับมาตรการต่างๆ ที่เข้มงวดขึ้น
  • รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกหนังสือเวียนถึงสถาบันการเงินเรื่องการปรับ
ปรุงโครงสร้างหนี้ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้วิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบ โดยขยายขอบเขตของมาตรการให้ครอบคลุมถึงลูกหนี้วิสาหกิจตามการจัด
ประเภทลูกหนี้ของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างรุนแรง และสถาบันการเงินไม่สามารถประเมินกระแส
เงินสดของลูกหนี้ได้ เช่น กิจการของลูกหนี้ยังไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ตามปกติ ทำให้ไม่สามารถปรับปรุงโครงสร้างหนี้ได้ทันภายในวัน
ที่ 30 มิ.ย.64 โดยลูกหนี้จะต้องไม่เป็นหนี้ด้อยค่าด้านเครดิต หรือไม่ถูกจัดชั้นต่ำกว่ามาตรฐาน ชั้นสงสัย ชั้นสงสัยจะสูญหรือชั้นสูญในสิ้นวัน
ที่ 1 ม.ค.63
  • "พิพัฒน์" ขู่ยุบโครงการ "ทัวร์เที่ยวไทย" หากไม่สามารถกระจายเม็ดเงิน 5,000 ล้านบาท ทั่วถึงทุกกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยว
ข้องกับ "การนำเที่ยว" ด้านสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งขอ 840 ล้านบาทเพื่อกระจายรายได้หวังต่อลมหายใจ
  • รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงบประมาณได้แจ้งให้ทุกหน่วยงานรับทราบแนวทางการอนุมัติเงิน
จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ในไตรมาสที่ 4 เพื่อให้การใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปี
งบประมาณ 64 ของหน่วยรับงบประมาณ เป็นไปอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โดยสำนักงบ
ประมาณจะอนุมัติเงินจัดสรรงบประมาณส่วนที่ยังไม่ได้จัดสรรโดยหน่วยรับงบประมาณไม่ต้องยื่นคำขอเข้ามาเพื่อขออนุมัติ
  • ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ข้อมูลจ้างงานภาค
เอกชนของ ADP ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิต และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ค.
ดัชนีราคาบ้านเดือนเม.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
  • ผู้อำนวยการแพลตฟอร์มการลำดับพันธุกรรมและนวัตกรรมการวิจัยควาซูลู-นาทาล (KRISP) แถลงข่าวว่าเชื้อไวรัสโควิด-
19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งถูกตรวจพบครั้งแรกในอินเดีย เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นและเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ระลอกที่ 3 ในแอฟริกาใต้
  • อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐคาดว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะปรับตัวเข้าใกล้ระดับ 5% ในช่วงสิ้นปีนี้ และคาด
ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐทรงตัว หรือเพิ่มขึ้น 0% ในเดือนพ.ค. ซึ่งต่ำ
กว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากพุ่งขึ้น 0.9% ในเดือนเม.ย. ขณะที่รายได้ส่วนบุคคล ลดลง 2% ในเดือนพ.ค. ต่ำ
กว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า อาจลดลง 2.7%
  • ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 85.5 ในเดือนมิ.ย. สูงกว่า
ระดับ 82.9 ในเดือนพ.ค. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 86.5

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ