นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเย็นนี้อยู่ที่ 32.06 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิดตลาดเมื่อ เช้าที่ระดับ 32.12 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 31.99 - 32.12 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมีแรงเทขายดอลลาร์จากผู้ ส่งออก
"บาทกลับมาแข็งค่าจากแรงเทขายดอลลาร์ของผู้ส่งออกในช่วงสิ้นเดือนและกลางปี ขณะที่ภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสม" นัก
บริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 32.00-32.20 บาท/ดอลลาร์ โดยคืนนี้จะมีการ ประกาศตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐ
THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 32.0426 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.46 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 110.57 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1890 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1904 ดอลลาร์/ยูโร
- ธปท.จับตาการยกระดับมาตรการควบคุมพื้นที่สีแดงเข้ม 6 จังหวัดเป็นเวลา 30 วัน จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทาง
เศรษฐกิจไทยมากขึ้นจากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้หรือไม่ แต่สถานการณ์ล่าสุดยังเห็นความไม่แน่นอนและความเสี่ยงต่างๆ ซึ่ง ธปท.ได้มอง
เผื่อไว้บางส่วน แต่หากมีความรุนแรงมากขึ้นและยืดเยื้อก็จะต้องพิจารณาตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจปี 64 ที่เหมาะสมต่อไป
- ธปท.เผยภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน พ.ค.64 ได้รับผลกระทบชัดเจนขึ้นจากการแพร่ระบาดระลอกสามของโควิด-19 ส่ง
ผลให้เครื่องชี้การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อน ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัวเนื่องจากมาตรการจำกัด
การเดินทางระหว่างประเทศยังมีอยู่ ขณะที่การส่งออกสินค้าปรับดีขึ้นต่อเนื่องตามอุปสงค์ประเทศคู่ค้า และช่วยพยุงการผลิตภาค
อุตสาหกรรม ด้านการใช้จ่ายภาครัฐมีบทบาทในการพยุงเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนขยายตัวได้เมื่อเทียบ
กับระยะเดียวกันปีก่อน
- กระทรวงพาณิชย์ เผยยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในเดือน พ.ค.64 มีจำนวน 5,568 ราย เพิ่มขึ้น 33% จากเดือน
เดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 79% เมื่อเทียบกับเดือน เม.ย.64 ซึ่งอาจมีผลมาจากการระบาดระลอกสามของโควิด-19 ที่กระจายเป็นวง
กว้าง และมีคลัสเตอร์ใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจลดลง
- นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่าเฟดอาจจำเป็นต้องเริ่มปรับลด
วงเงินในโครงการซื้อสินทรัพย์อย่างเร็วที่สุดในปีนี้ เพื่อเปิดทางให้เฟดมีความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปลายปีหน้า