ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.37 อ่อนค่าในรอบ 14 เดือน จากกังวลสถานการณ์โควิดที่รุนแรงมากขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 8, 2021 09:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เช้านี้เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 32.37 บาท/ดอลลาร์ เป็นระดับอ่อน ค่าสุดในรอบ 14 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.63 โดยอ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.27 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์ปรับตัวแข็ง ค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก เนื่องจากตลาดมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ที่ขยายวงกว้างมาก ขึ้น

"บาทอ่อนค่าสุดในรอบ 14 เดือน หลังดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก เนื่องจากความกังวลต่อสถานการณ์โควิด- 19 ขณะที่รายงานของเฟดไม่มีอะไรใหม่" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.25 - 32.45 บาท/ดอลลาร์

ส่วนปัจจัยในประเทศที่ตลาดจับตาดูคือ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีความรุนแรงมากขึ้น โดยคาดว่าจะมี การพิจารณายกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดเพิ่มเติม ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันให้บาทอ่อนค่ามากขึ้น

THAI BAHT FIX 3M (7 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.22083% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.26976%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.53 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 110.76 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1791 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1828 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.295 บาท/ดอลลาร์
  • ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้พบผู้ติด
เชื้อรายใหม่รวม 7,058 ราย แบ่งเป็น ผู้ติดเชื้อใหม่ 6,990 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 68 ราย มีผู้เสียชีวิต 75 ราย รักษา
หายกลับบ้านแล้ว 4,978 ราย ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศระลอกใหม่อยู่ที่ 279,367 ราย หายป่วยสะสมจำนวน
208,723 ราย
  • "ตลท." เผยผลสำรวจซีอีโอ ปี 64 พบบจ.ไทยแกร่ง รับมือโควิดลากยาว จากปรับตัวทางธุรกิจ-สภาพคล่องเพียงพอ-มี
แผนรองรับสถานการณ์ ส่วนใหญ่คาด 2-3 ปี กำไรฟื้นเท่าก่อนโควิดระบาด ด้านมาร์เก็ตแคปไอพีโอปีนี้ คาดเท่ากับ ปี 63 ที่ 5.55 แสน
ล้าน
  • รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กรตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิ
ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 โดยในเดือนมิถุนายน 2564 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 10,947 ล้านบาท ช่วง 6 เดือนแรกปีขายสุทธิรวม
77,817 ล้านบาท โดยผู้ลงทุนในประเทศมีสถานะเป็นผู้ซื้อสุทธิ 111,278 ล้านบาท นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่มีการแพร่ระบาดของ
ไวรัสโควิด-19 ผู้ลงทุนในประเทศมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดมาอย่างต่อเนื่อง
  • "เอดีบี"เปิดแผนยุทธศาสตร์หุ้นส่วนการพัฒนาระดับประเทศฉบับใหม่ พร้อมช่วยรัฐบาลไทยบรรลุเป้าหมายประเทศรายได้
สูง-ยั่งยืน ปล่อยกู้กว่า 5 หมื่นล้าน ผ่าน 5 โครงการ ดันเศรษฐกิจฟื้นตัวจากโควิด แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ
  • "จุรินทร์" เปิดตัวโครง การ "จับคู่กู้เงิน" หวังเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ส่งออกตัวเล็ก จัดวงเงิน 2,500 ล้านบาท ปล่อยสิน
เชื่อดอกถูกกว่าปกติ 3.99% ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ รู้ผลใน 7 วัน
  • "แบงก์ชาติ" ปลื้ม 9 เดือนประคองลูกหนี้ 99% ผ่อนค่างวดได้ มีแค่ 192 รายจ่ายไม่ไหว พร้อมขยายเวลาช่วยเหลือออก
ไปถึงสิ้นปี 64 ลุยปรับเกณฑ์ลูกหนี้เป็น 70 ปี จากเดิม 65 ปี
  • นายกสมาคมการท่องเที่ยวเกาะสมุย เปิดเผยว่า เอกชนในพื้นที่เกาะสมุยได้เตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติใน
วันที่ 15 ก.ค.นี้แล้ว โดยยอมรับว่าในช่วงเดือนแรกจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไม่มาก เพราะยังมีกฎระเบียบหลายอย่างที่ต้องคอยปรับอยู่
เรื่อยๆ แต่ก็มองในแง่ดีว่า หากสถานการณ์ของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เป็นไปด้วยดีไม่มีสะดุดก็ช่วยหนุนให้การเปิดเกาะสมุยได้รับอานิสงส์ดีไปด้วย
  • ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ได้เสนอผล
การศึกษาข้อดี ข้อเสีย ข้อห่วงใย และการปรับตัวของไทยกรณีที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าภาคพื้นแปซิฟิก (ซี
พีทีพีพี) ซึ่งศึกษาเพิ่มเติมจากข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาผลกระทบจากการเข้าร่วมเป็นสมาชิกซีพีทีพีพีให้ ครม.
พิจารณาแล้วขณะนี้อยู่ในขั้นตอนพิจารณากลั่นกรอง และจะบรรจุในวาระการประชุม ครม.อีก 2-3 สัปดาห์
  • รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงแผนบริหารหนี้สาธารณะ ปี 64 ว่า ขณะนี้ที่ประชุม ครม. ได้เห็นชอบให้
ปรับปรุงแผนฯ เป็นครั้งที่ 2 เรียบร้อยแล้ว โดยได้ปรับวงเงินการก่อหนี้ใหม่เพิ่มขึ้นอีก 107,298 ล้านบาท และปรับวงเงินในแผนบริหาร
หนี้เดิมเพิ่มขึ้นอีก 122,583 ล้านบาท ซึ่งสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้เตือนว่า กระทรวงการคลังควร
ให้ความสำคัญกับการบริหารเงินคงคลังและบริหารเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลอย่างเหมาะสม และรัดกุมด้วย เพราะตอนนี้สถานการณ์โค
วิด-19 มีความรุนแรงและมีแนวโน้มกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลมากขึ้น
  • กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ การันตีการส่งออกของประเทศไทย ครึ่งหลังของปีนี้ มีแนวโน้มสดใส หลังเศรษฐกิจ
โลก-คู่ค้าฟื้น และยังได้ผลดีจากการที่ไทยใช้ดิจิทัลดันยอดการค้า เชื่อมูลค่าขยายตัวโตเกินเป้าหมายเป็นพระเอกขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยใน
ปีนี้
  • คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มยูโรโซนปี 2564 และปี 2565 แต่ยัง
คงเตือนถึงความเสี่ยงจากเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งอาจบีบบังคับให้ต้องมีการใช้มาตรการควบคุมโรคจนส่งผลกระทบต่อ
เศรษฐกิจอีกครั้ง โดย EC คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนจะขยายตัว 4.8% ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าระดับคาดการณ์เดือน พ.ค.ที่ 4.3%
โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งส่งผลดีต่อภาคบริการ และมีแนวโน้มที่จะช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวใน
ยุโรป นอกจากนี้ EC คาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวต่อไปในปีหน้าที่ระดับ 4.5%
  • สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน
(JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.2 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่ง
เป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนธ.ค.2543 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ
9.39 ล้านตำแหน่ง
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย.โดยระบุว่า กรรมการเฟดได้หารือกันเกี่ยวกับ
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างไรก็ดี กรรมการ
เฟดมีความเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นที่ว่า ควรจะเริ่มปรับลดวงเงิน QE เมื่อใด เนื่องจากมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ดี กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในขณะนี้ยังไม่สอดคล้องกับเป้าหมายของเฟดที่ต้องการเห็น เศรษฐกิจ "ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน" ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขสำคัญในการเริ่มกลับมาดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงิน นอกจากนี้ กรรม การเฟดยังเล็งเห็นว่า แม้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่เชื่อว่าเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราวเท่านั้น

  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ก.
ค.) หลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า กรรมการเฟดอาจยังไม่พร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับ
ลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ก.ค.) ทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกัน 5 วันทำการ โดยได้ปัจจัยหนุนจาก
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐวันนี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงาน

สารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ