นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.74 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเช้าเล็กน้อยที่เปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 32.70 บาท/ดอลลาร์
ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.67-32.80 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการอ่อนค่าสุดในรอบ 15 เดือน โดยเงินบาท ที่อ่อนค่า เนื่องจากวันนี้มีแรงซื้อดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง และจากความกังวลสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศ ซึ่งยัง อยู่ระหว่างความไม่แน่นอนว่าศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) อาจยกระดับมาตรการควบคุมโรค
"วันนี้บาทขึ้นไปอ่อนค่าสุดที่ 32.80 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าอ่อนค่าที่สุดในรอบ 15 เดือน คืนนี้รอติดตามปัจจัยยอดค้าปลีกของ สหรัฐฯ" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่าวันจันทร์เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70 - 32.85 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.08 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 109.91 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1819 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1809 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,574.37 จุด เพิ่มขึ้น 2.36 จุด (+0.15%) มูลค่าการซื้อขาย 80,445 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,125.86 ลบ.(SET+MAI)
- นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) มอบหมายให้คณะแพทย์ไปทบทวนมาตรการ
- รองผู้ว่าฯ ธปท.เผย อยู่ระหว่างการศึกษาข้อดี-ข้อเสียของการปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยแก่ลูกหนี้รายย่อย และเห็นว่า
- ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเสถียรภาพระบบการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจประเทศไทย
ส่วนกรณีที่หลายประเทศมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจนั้น นายดอน ระบุว่า ในส่วนของ ประเทศไทยคงต้องใช้เวลาอีกระยะ เพราะเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้ากว่าต่างประเทศมาก ดังนั้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจึงจำเป็น ต้องอยู่ในระดับต่ำไปอีกนาน
- ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าววว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบันทวีความรุนแรงมาก
- โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในหลายประเทศของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2564 ซึ่ง
- สหภาพยุโรป (EU) มีมติถอดประเทศไทยออกจากบัญชีรายชื่อกลุ่มประเทศที่มีความปลอดภัย (EU White List) ที่
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้ตามตลาดคาด ซึ่งรวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ย
- รมว.คลังสหรัฐ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ มีแนวโน้มพุ่งขึ้นเป็นเวลานานหลายเดือน และกังวลว่าเงินเฟ้อจะส่งผล
ให้ครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำ ประสบความยากลำบากในการซื้อบ้าน เมื่อมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้น