ศบศ.ต่อยอดแซนด์บ็อกซ์เปิดพังงา-กระบี่ 1 ส.ค.,ปลดข้อจำกัดดึง 3 กลุ่มศักยภาพ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 22, 2021 14:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) มีมติเห็นชอบมาตรการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าร่วม Phuket Sandbox เดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับพื้นที่นำร่องอื่น (7+7) โดยนักท่องเที่ยวพำนักภายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นเวลา 7 วัน และสามารถเดินทางท่องเที่ยวและต้องพำนักในพื้นที่อื่น ๆ อีกเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า) จังหวัดกระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เล) และจังหวัดพังงา (เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่) มีกำหนดเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 ส.ค.64

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษก ศบศ.กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ศบศ.สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานภาคเอกชนและภาคประชาชนเพื่อสร้างความเข้าใจของคนในพื้นที่ร่วมกัน และพิจารณาจัดเตรียมแผนการดำเนินการบนระเบียบหลักเกณฑ์และมาตรฐานเดียวกับการดำเนินการของ Phuket Sandbox เพื่อมุ่งเน้นความปลอดภัยและการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่

และมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดทำรายละเอียดแผนการเชื่อมโยงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเดินทางระหว่างจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่นำร่องอื่นเพื่อนำเสนอให้ที่ประชุม ศบค. พิจารณาต่อไป และให้พิจารณาจัดทำแผนเปิดรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่มีศักยภาพนำเสนอให้ที่ประชุม ศบศ. และ ศบค. พิจารณาต่อไปด้วย โดยกำชับให้ความสำคัญกับการดำเนินการอย่างเคร่งครัดในการร่วมมือกันเพื่อควบคุมการระบาดให้ดี

สำหรับโครงการ Phuket Sandbox มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1-21 ก.ค.64 รวม 9,358 คน ส่วนยอดการจองห้องพักตามมาตรฐาน SHA+ สะสมในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย.64 อยู่ที่ 244,703 คืน คิดเป็นอัตราการเข้าพัก 10.12% สร้างรายรับการท่องเที่ยวแล้ว 534.31 ล้านบาท

ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย ตามข้อเสนอของทีมปฏิบัติการเชิงรุกทาบทามทั้งบริษัทเอกชนไทยและต่างประเทศ โดยการปรับข้อจำกัดต่าง ๆ และอำนวยความสะดวก เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติกลุ่มเป้าหมายสำคัญที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศในระยะยาว ประกอบด้วย 1.กลุ่มประชากรโลกที่มีความมั่งคั่งสูง (Wealthy global citizen) 2.ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ (Wealthy pensioner) 3.กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย (Work-from-Thailand professional) และ 4.กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ (High-skilled professional)

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาข้อเสนอในรายละเอียดต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ