เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบยูโรและเยนในการซื้อขายช่วงบ่ายวันนี้ (15 ต.ค.) ก่อนที่จะมีการประชุมจี7 ที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ "เงินดอลลาร์มีปฏิกิริยาต่อการประชุมจี7ที่กำลังจะมีขึ้น แม้การประชุมดังกล่าวไม่มีแนวโน้มที่จะกระทบนโยบายการเงินของค่าเงินหลักอื่นๆ แต่ตลาดยังคงจับตาดูว่ายุโรปจะแสดงความไม่พอใจต่อเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นหรือไม่" คริสตี้ ตัน นักเศรษฐศาสตร์การเงินจากแบงค์ ออฟ อเมริกา ในสิงคโปร์กล่าว ณ เวลา 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ค่าเงินยูโรซื้อขายอยู่ที่ระดับ 1.4174 ดอลลาร์สหรัฐต่อยูโร เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.4167 ดอลลาร์ต่อยูโรในช่วงเช้า ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐซื้อขายอยู่ที่ 117.56 เยนต่อดอลลาร์ ลดลงจาก 117.645 เยนต่อดอลลาร์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่มประเทศสมาชิกจี7 ได้แก่ สหรัฐ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร เยอรมนี อิตาลี และ แคนาดา จะประชุมในรายละเอียดเกี่ยวกับปัญหาซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน รวมถึงปัญหาวิกฤตการณ์ซับไพรม์ด้วย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าเมื่อเทียบยูโรและเยน เนื่องจากยอดค้าปลีกประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐที่มีมากเกินบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดไม่น่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนนี้ ยอดค้าปลีกเติบโตขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 0.3% อันเป็นผลมาจากข้อมูลเชิงบวกหลายอย่าง ทั้งตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งในเดือนส.ค.และ ก.ย. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐไม่น่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างที่เคยมีการคาดการณ์กันไว้ นางตันกล่าวว่า "ทีมนักเศรษฐศาสตร์ของเราคิดว่า โอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 31 ต.ค.นี้ มี 50-50" สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงาน