นักวิเคราะห์ชี้ดอลล์ออสซี่แข็งสุดรอบใน 23 ปี กำลังกระทบเศรษฐกิจ

ข่าวต่างประเทศ Monday October 15, 2007 10:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักเศรษฐศาสตร์มองว่า ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียทะยานแข็งค่าสุดในรอบ 23 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อาจฉุดรั้งให้เศรษฐกิจออสเตรเลียถดถอยได้ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นโดยได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการด้านทรัพยากรจำนวนมหาศาลจากจีน ท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้ทั้งด้านบวกและด้านลบเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ ตลอดถึงช่องว่างอัตราดอกเบี้ยของออสเตรเลียและสหรัฐที่เพิ่มสูงขึ้น สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงานว่า ค่าเงินดอลล์ออสเตรเลียเคลื่อนไหวราว 78 เซนต์สหรัฐเมื่อปี 2549 แต่ขณะนี้ได้แข็งค่าขึ้นมากกว่า 10 เซนต์ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งสัปดาห์ล่าสุดเคลื่อนไหวที่ 89.73 เซนต์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียที่แข็งค่าเป็นสิ่งพึงปราถนาของผู้บริโภคชาวออสเตรเลียเพราะได้ซื้อสินค้านำเข้าในราคาถูกลง นักวิเคราะห์มองว่า ปรากฎการณ์เช่นนี้จะบีบบังภาคธุรกิจให้เพิ่มการแข่งขัน หากต้องการอยู่รอดในตลาดส่งออกที่แข่งขันดุเดือด นอกจากการเติบโตโดยรวมจะชะลอตัวแล้ว ภาคการเกษตรก็ต้องดิ้นรนกับภัยพิบัติแห้งแล้งย่ำแย่ที่สุดเท่าที่เคยพบเจอกันมา "เมื่อค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 1% จะเท่ากับรายได้ทางการเกษตรที่หดหายไปราว 190 ล้านดอลลาร์" ชาร์ลส์ แม็คเอลโฮน ผู้จัดการเศรษศาสตร์สมาพันธ์เกษตรกรแห่งชาติ กล่าว ปีเตอร์ คอสเตลโล่ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าสุดนับแต่มีการปล่อยลอยตัวเมื่อปี 2526 "การที่ค่าเงินของเราแข็งค่าเช่นนี้ เมื่อมองในมุมของเศรษฐกิจแล้วจะนำมาซึ่งปัญหาความยุ่งยาก และสร้างความลำบากมากขึ้นให้กับอุตสาหกรรมส่งออก รวมถึงยับยั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วย" คอสเตลโล่ กล่าว อย่างไรก็ดี ขุนคลังออสเตรเลียมองว่า การที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น จะช่วยลดผลกระทบจากราคาน้ำมันโลกที่พุ่งสูงขึ้น และมีผลปลายทางในการรักษาระดับเงินเฟ้อ รวมทั้งลดโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ