รายงานงบการเงินล่าสุดของสถาบันการเงินญี่ปุ่นแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่บรรดาสถาบันการเงินเหล่านั้นจะขาดทุนรวมกัน 6.26 แสนล้านเยน ในปีงบการเงิน 2550 ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตเงินกู้ตลาดซับไพรม์ของสหรัฐ โดยในครึ่งแรกของปีงบการเงิน หรือ ช่วงเดือนเมษายน-กันยายน บรรดาธนาคาร เครดิต ยูเนี่ยน และสถาบันการเงินอื่นๆ เปิดเผยผลขาดทุนที่เกี่ยวเนื่องกับซับไพรม์ไปแล้ว 3.70 แสนล้านเยน ซึ่งรวมถึงโนมูระ โฮลดิ้งส์ อิงค์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่ขาดทุนเป็นเงิน 1.456 แสนล้านเยน ขณะที่ โนรินชูกิน แบงก์ กลายเป็นสถาบันการเงินรายล่าสุดของญี่ปุ่นที่เปิดเผยรายงานการขาดทุนเกี่ยวเนื่องกับซับไพรม์ มูลค่ารวม 1.057 แสนล้านเยนในช่วงครึ่งแรกของปีงบการเงิน อย่างไรก็ดี โนรินชูกินเปิดเผยว่า การลงทุนที่เกี่ยวกับซับไพรม์ทั้งหมดอยู่ที่ 4.80 แสนล้านเยน หรือไม่ถึง 1% ของสินทรัพย์ทั้งหมด และจะไม่กระทบต่อสถานะทางการเงินของตนเอง ทั้งนี้ โนรินชูกิน เปิดเผยกำไรสุทธิของกลุ่มพุ่งขึ้น 10% จากปีก่อนหน้าแตะที่ 1.4358 แสนล้านเยน เนื่องจากผลกำไรแข็งแกร่ง รวมทั้งการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งช่วยสกัดผลกระทบจากขาดทุนที่เกี่ยวข้องกับซับไพรม์ไปได้