นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.74 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิด ตลาดเมื่อเช้าอยู่ที่ระดับ 33.80 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.73-33.86 บาท/ดอลลาร์
"วันนี้บาทปิดแข็งค่าในทิศทางเดียวกับภูมิภาค โดยยังคงไร้ปัจจัยใหม่ ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวขึ้นจึงคาดว่าอาจเป็น Fund Flow จากต่างชาติที่เข้าซื้อหุ้น" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.70-33.90 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยที่ต้องติดตามคืนนี้ คือ ดัชนีภาคบริการเดือน ก.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ส่วนพรุ่งนี้ต้อง ติดตามตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน ก.ย.จาก ADP ของสหรัฐฯ อีกทั้งทิศทางของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.16 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 110.97 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1599 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1610 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,624.24 จุด เพิ่มขึ้น 9.76 จุด, +0.60% มูลค่าการซื้อขาย 88,969.42 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 437.51 ล้านบาท (SET+MAI)
- รมว.คลัง ยืนยันยังไม่มีนโยบายปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล แม้ทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น แต่กอง
ทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังมีสภาพคล่องเหลือเพียงพอดูแลราคาไม่ให้มีผลกระทบกับประชาชน เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายชัดเจนในการพยุงราคา
น้ำมันดีเซลไม่ให้เกินราคาลิตรละ 30 บาท
- ครม.เห็นชอบหลักการโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในการส่ง
เสริมและรักษาระดับการจ้างงาน ตลอดจนสร้างความแข็งแรงให้แก่ธุรกิจ โดยจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่นายจ้างที่มีลูกจ้างสัญชาติไทยจำนวนไม่
เกิน 200 คน ในอัตรา 3,000 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน
- ครม.เห็นชอบให้กรมควบคุมโรคจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าจากประเทศฮังการี
จำนวน 4 แสนโดส และรับการสนับสนุนวัคซีนไฟเซอร์จำนวน 1 แสนโดสจากไอซ์แลนด์ และวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจำนวน 346,100 โด
สจากเยอรมนี
- ครม.เห็นชอบให้จัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพิ่มเติม จำนวน 6 แห่ง และเปลี่ยนแปลงเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ
จำนวน 1 แห่ง ตามมติคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อเพิ่มจุดแข็งดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้า
หมายและรองรับการลงทุนในอนาคต รองรับการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายใน 10 ปี มูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาท
- กระทรวงพาณิชย์ เผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.ย.64 อยู่ที่ระดับ 101.21 เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี
ก่อน 1.68% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.64) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.83% พร้อมปรับ
เป้าเงินเฟ้อปี 64 เป็น 0.8-1.2% จาก 0.7-1.7% หลังราคาน้ำมันสูงขึ้นและบาทอ่อนค่า
- สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) มั่นใจการส่งออกของไทยในปีนี้จะมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน
12% มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 260,000 ล้านดอลลาร์ หลังจากช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.64) มีอัตราขยายตัว 15.25% ขณะที่ยอด
นำเข้าขยายตัวมาก โดยคาดยอดส่งออกในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะมีมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 2.1-2.2 หมื่นล้านดอลลาร์
- สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) คาดแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 4/64 ยังเป็นเทรนด์ขาขึ้น แม้มองว่าการปรับตัว
ขึ้นของดัชนีจะไม่ได้มีอัพไซด์มากจากปัจจุบันราว 1,600 จุด ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายสิ้นปีนี้ที่คาดการณ์ไว้ที่ 1,600-1,650 จุด แม้จะมี
การเปิดประเทศแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติคงยังไม่ได้กลับมาเต็มที่ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence
Index: ICI) ในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลง 1.1% อยู่ที่ระดับ 142.71 อยู่ในเกณฑ์ร้อนแรงเช่นเดียวกับเดือนก่อนหน้า
- ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการ
ประชุมวันนี้ พร้อมกับออกแถลงการณ์เตือนเกี่ยวกับราคาบ้านที่พุ่งขึ้นอย่างมาก และยังได้ส่งสัญญาณว่าอาจใช้มาตรการควบคุมการกู้จำนอง
เพื่อสกัดความร้อนแรงของตลาดที่อยู่อาศัย
- ทีมนักวิเคราะห์ของ Atlantic Council และ Rhodium Group ระบุเศรษฐกิจจีนมีความเสี่ยงที่จะชะลอตัวลง หากจีน
ไม่ดำเนินการอย่างเพียงพอในการกระตุ้นการแข่งขันในตลาดด้วยการเปิดทางให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในระบบเศรษฐกิจ และ
เพิ่มกระแสการลงทุนข้ามพรมแดนแบบสองทาง
- ไอเอชเอส มาร์กิต เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของยูโรโซน ปรับตัวลงสู่ระดับ 56.2 ใน
เดือนก.ย. จากระดับ 59.0 ในเดือนส.ค. และอยู่ต่ำกว่าระดับคาดการณ์ขั้นต้นที่ 56.1
- ไอเอชเอส มาร์กิต/ซีไอพีเอส เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหราช
อาณาจักร อยู่ที่ระดับ 54.9 ในเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 54.8 ในเดือนส.ค. โดยเป็นครั้งแรกที่ดัชนี PMI ปรับตัวขึ้นนับตั้งแต่
เดือนพ.ค.
- สมาคมผู้ผลิตและผู้ค้ารถยนต์ (SMMT) ของอังกฤษ เผยยอดขายรถใหม่ในสหราชอาณาจักรในเดือน ก.ย.อยู่ที่ 215,312
คัน ซึ่งถือเป็นยอดที่ต่ำสุดในรอบ 23 ปี ปรับตัวลดลง 34% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว