นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ แถลงดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน ต.ค.64 อยู่ที่ 66.92 ปรับลดลง 2.60 จุด หรือคิดเป็น 3.75% จากระดับ 69.52 จุดในเดือน ก.ย.64 โดยมีปัจจัยที่ทำให้ดัชนีลดลงมาจากการกระจายวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคสูง, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น และการลดนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)
โดยคาดการณ์ความต้องการซื้อทองคำในช่วงเดือน ต.ค.64 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 348 ตัวอย่าง พบว่า 36% จะซื้อทองคำในเดือนนี้ ขณะที่ 35% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำ หรือไม่ และอีก 29% ยังไม่ซื้อทองคำ
ส่วนผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 13 ตัวอย่างนั้น ส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาทองคำในเดือน ต.ค.64 จะลดลงมีจำนวน 7 ราย และคาดว่าจะใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือน ก.ย.64 มีจำนวน 3 ราย แต่ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมีจำนวน 3 ราย
สำหรับการคาดการณ์ราคาทองคำในเดือน ต.ค.64 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมอง ดังนี้ Gold Spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 1,700-1,811 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 27,200-28,600 บาทต่อบาททองคำ และด้านค่าเงินบาทให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 33.13-34.19 บาท/ดอลลาร์
การลงทุนทองคำในเดือน ต.ค.64 ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ให้ความเห็นว่า ราคาทองคำเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ภายในกรอบ โดยมุมมองต่อราคาทองคำในเดือนนี้ว่าหากราคาทองไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านที่บริเวณ 1,833 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ได้ คาดว่าราคาทองจะค่อยๆ ขยับลงทดสอบแนวรับแรกที่บริเวณ 1,698 ดอลลา/ทรอยออนซ์ และหากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับดังกล่าวได้ จะมีแนวรับถัดไปที่บริเวณ 1,680-1,676 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดของปี 2564 ทั้งนี้นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนอยู่เสมอ เนื่องจากตลาดทองคำยังคงมีความผันผวน
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ ในไตรมาสที่ 4/64 (ต.ค.-ธ.ค.) อยู่ที่ 68.37 จุด ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.40 จุด หรือคิดเป็น 0.59% จากไตรมาส 3/64 ที่ระดับ 67.97 จุด โดยมีสาเหตุจากการขายทำกำไรในสินทรัพย์ประเภท Cryptocurrency ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และการอ่อนค่าของเงินบาท