รัฐบาลอินโดนีเซียคาดการณ์ว่า เงินอุดหนุนด้านเชื้อเพลิงในงบประมาณของรัฐบาลจะแตะระดับ 90 ล้านล้านรูเปียห์ในปีนี้ (ประมาณ 9.8 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์เบื้องต้นก่อนหน้านี้ที่ 55 ล้านรูเปียห์ (6 พันล้านดอลลาร์) เนื่องจากราคาน้ำมันขยับสูงขึ้น อินโดนีเซียจำเป็นต้องรับมือกับปัญหาราคาน้ำมันโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ด้วยการปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิงในประเทศ หรือเปิดตัวโครงการประหยัดพลังงาน "อย่างไรก็ตามรัฐบาลอินโดนีเซียจะยังไม่ใช้ทางเลือกแรกคือปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิงในประเทศ เพราะอาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสังคม ดังนั้นเราอาจใช้ทางเลือกที่สอง" นายเพอร์โนโม ยุสกิอันโทโร รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของอินโดนีเซียกล่าวในการสัมนาเกี่ยวกับการพัฒนาพลังงานทดแทน นายเพอร์โนโมกล่าวว่า ปัจจุบันราคาน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยของอินโดนีเซียได้พุ่งขึ้นแตะระดับ 72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว สูงกว่าที่รัฐบาลได้ตั้งเป้าไว้ก่อนหน้านี้ที่ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ รัฐบาลได้จัดสรรเงินช่วยเหลือสำหรับผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงด้านการคมนาคมขนส่ง แต่อนุญาตให้ใช้ราคาตลาดสำหรับเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของสารที่มีค่าออกเทนสูง เชื้อเพลิงที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม และการส่งออก อาทิ น้ำมันเบนซิน อนุญาตให้ขายเพียง 4,500 รูเปียห์ (49 เซนต์) ต่อลิตรเท่านั้น อัตราการใช้เชื้อเพลิงในอินโดนีเซียคาดจะแตะระดับ 38.2 ล้านกิโลลิตรในปีนี้ สูงกว่าโควต้าของรัฐบาลที่ 36.1 ล้านกิโลลิตร สำนักข่าวซินหัวรายงาน