ผลสำรวจของกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เปิดเผยว่า บริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางรู้สึกว่าธุรกิจของตนได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และกำลังประสบปัญหาในการแบ่งเบาภาระของบริษัทไปยังลูกค้า เพื่อให้ความช่วยเหลือบริษัทเหล่านั้น ทางกระทรวงจึงประกาศใช้มาตรการฉุกเฉิน ซึ่งรวมถึงการเลื่อนเวลาใช้คืนหนี้ที่บริษัทต่างๆกู้ยืมมาจากสถาบันการเงินของรัฐ ผลจากการสำรวจระบุว่า 61.1% ของบริษัททั้งหมดไม่สามารถส่งผ่านภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังลูกค้าได้ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 59.0% ในการสำรวจเมื่อเดือนก.ค. ในขณะที่ 27.9% ระบุว่าสามารถส่งผ่านภาระไปยังลูกค้าได้ 1-20% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 27.6% นอกจากนั้น 92.5% ของทั้งหมดยังเผยว่า ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 89.7% โดยมี 37.5% ที่ระบุว่าได้รับผลกระทบหนักมาก เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 30.9% ทั้งนี้ ตั้งแต่ปลายเดือนต.ค.จนถึงกลางเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ทางกระทรวงได้ทำการสำรวจความคิดเห็นบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางกว่า 1,133 แห่ง ใน 25 ภาคอุตสาหกรรม เช่น ภาคการคมนาคม ค้าปลีก บริษัทก่อสร้าง และบริษัทผลิตเหล็กกล้า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วราคาน้ำมันพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 99.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยในระหว่างการทำแบบสำรวจข้างต้น ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 90-98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนระหว่างการทำแบบสำรวจเดือนก.ค. ราคาน้ำมันอยู่ที่ 71-77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สำนักข่าวเกียวโดรายงาน