นายคุรุจิต นาครทัพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปและคาดว่าจะไม่มีโอกาสได้เห็นราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับต่ำกว่าระดับ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากปริมาณความต้องการใช้น้ำมันของจีนและอินเดียเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นประชาชนจึงควรช่วยกันประหยัดการใช้พลังงานและหันไปใช้พลังงานทดแทนกันมากขึ้น ทั้งนี้กระทรวงพลังงานตั้งเป้าว่าในปลายปีนี้ จะส่งเสริมให้ประชาชนใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ได้ถึง 8 ล้านลิตร/วัน จากปัจจุบันมีการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์รวม 5.4 ล้านลิตร/วัน แบ่งเป็นแก๊สโซฮอล์ 95 จำนวน 4.5 ล้านลิตร/วัน แก๊สโซฮอล์ 91 มียอดการใช้ 9 แสนลิตร/วัน ขณะที่ปริมาณการใช้น้ำมันเบนซิน 95 ได้ลดลงต่อเนื่องเหลือเพียง 2.7 ล้านลิตร/วัน รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานได้จัดทำโครงการสิทธิประโยชน์ทางภาษี เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ระยะที่ 2 หลังจากที่โครงการระยะแรกประสบความสำเร็จ โดยจะมีงบดำเนินการในการสนับสนุนให้แก่สถานประกอบการรวม 100 ล้านบาท สำหรับผู้ที่ดำเนินมาตรการอนุรักษ์พลังงานในปีหน้า ซึ่งรัฐจะจ่ายเงินสนับสนุนทดแทนภาษีให้กับสถานประกอบการต้องชำระไม่เกิน 1 แสนบาท/มาตรการ หรือรวมสถานประกอบการละไม่เกิน 2 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการจำนวน 140 รายเข้าร่วมโครงการ และคิดเป็นพลังงานที่ประหยัดได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท/ปี ทั้งนี้ในโครงการแรก สามารถประหยัดการใช้พลังงานโดยคิดเป็นมูลค่าได้แล้ว 400 ล้านบาท/ปี และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนรวมในการติดตั้งระบบประหยัดพลังงาน 546 ล้านบาท ในขณะที่รัฐบาลให้เงินสนับสนุนเพียง 43 ล้านบาทเท่านั้น