ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ออกประกาศฉบับใหม่ปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ลงทุนในตราสาร Collateralized Debt Obligation(CDO)เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ตระหนักถึงการมีระบบบริหารความเสี่ยงเพื่อรองรับการทำธุรกรรม CDO อย่างรัดกุม การบันทึกบัญชี และการประเมินมูลค่ายุติธรรมของธุรกรรมดังกล่าวที่สอดคล้องกับมาตรฐานการบัญชีสากลในภาวะที่ตลาดการเงินโลกมีวามผันผวนเพิ่มมากขึ้น นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายความเสี่ยง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ประกาศฉบับใหม่จะมีผลให้ยกเลิกฉบับเดิม โดยจะให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุกเบกษาเป็นต้นไป ยกเว้นการจัดประเภทเงินลงทุนและบันทึกบัญชีในส่วนของธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้าที่ประกาศมีผลบังคับใช้ ทั้งนี้ ให้ธนาคารพาณิชย์เปลี่ยนการจัดประเภทเงินลงทุนและบันทึกบัญชีให้เป็นไปตามข้อกำหนดตามประกาศ ตั้งแต่งวดการบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 ม.ค. 2551 เป็นต้นไป สำหรับงวดบัญชี 6 เดือนหลังที่สิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค. 50 ให้ธนาคารพาณิชย์เปิดเผยข้อมูลการทำธุรกรรม รวมทั้งผลกระทบที่จะมีต่องบการเงินและเงินกองทุนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศนี้ ในหมายเหตุประกอบงบการเงินด้วย สำหรับสาระในประกาศฉบับใหม่จะเน้นเรื่องของความเพียงพอของเงินกองทุนที่จะรองรับการทำธุรกรรม โดยการประเมินมูลค่ายุติธรรมและนำผลขาดทุนสุทธิไปหักออกจากเงินกองทุนแล้ว เงินกองทุนจะต้องไม่ต่ำกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด คือ 8.5% ในกรณีธนาคารพาณิชย์ไทย และ 7.5% ในกรณีสาขาธนาคารต่างประเทศ และต้องมีเพียงพอที่จะรองรับธุรกรรมใหม่ ซึ่งธนาคารจะต้องประเมินอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งระบุถึงการจัดประเภทเงินลงทุน การบันทึกบัญชี และการประเมินมูลค่ายุติธรรมสำหรับธุรกรรม CDO พร้อมทั้งได้กำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยง โดยในระหว่างที่ยังไม่มีมาตรฐานการบัญชีไทย ธปท.กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์จัดประเภท บันทึกบัญชี และประเมินมูลค่ายุติธรรมธุรกรรม CDO ตามมาตรฐาน IAS39