ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.26 แข็งค่าจากวันทำการสุดท้ายของปี นลท.คลายกังวลโอมิครอน-รอปัจจัยใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 4, 2022 08:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.26 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ปิดตลาดวันที่ 30 ธ.ค.64 ที่ระดับ 33.34 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้แข็งค่าจากปิดตลาดของวันทำการสุดท้ายในปี 64 โดยระหว่างช่วงวันหยุดยาว ตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ทั้งนี้เห็นว่าแม้ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกจะเพิ่มสูงขึ้น แต่ตลาดโลกเริ่มมองข้ามปัจจัยเรื่องไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนไปแล้ว เนื่องจากอัตรา การป่วยหนัก หรือเข้า รพ.มีไม่มาก

อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่สำคัญสำหรับปีนี้ ตลาดการเงินทั่วโลกจะจับตาดูการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคาร กลางสหรัฐ (เฟด)

"ปัจจัยชี้นำที่สำคัญของปีนี้ ตลาดทั่วโลกจะดูว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยช้าหรือเร็วอย่างไร...การแข็งค่าของเงินบาทน่าจะเป็น ภาวะชั่วคราว เพราะตราบใดที่รายได้จากการท่องเที่ยวยังไม่กลับมา ก็ยากที่แนวโน้มบาทจะแข็งค่า ยิ่งตอนนี้ test&go ก็เลื่อนออกไป อีก" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.20 - 33.35 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (30 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.32468% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.39809%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 115.37 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันที่ 30 ธ.ค.64 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 115.17 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1306 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันที่ 30 ธ.ค.64 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.1306 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.383 บาท/ดอลลาร์
  • รมว.คลังประกาศนโยบายปี 65 ลดมาตรการเยียวยา เพิ่มลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัว "ศุภวุฒิ" หนุนรัฐก้าวข้ามโอมิค
รอน เดินหน้าปลุกจีดีพีเติบโตเท่าทันคู่แข่ง ขณะที่เงินเฟ้อ-โควิด ปัจจัยท้าทาย "นักค้าเงิน" ชี้แนวโน้มเงินบาทผันผวนหนัก คาดแบงก์ชาติ
ตรึงดอกเบี้ย 0.5% ยาวถึงสิ้นปี
  • รัฐ-เอกชนมั่นใจส่งออก ปี 65 โตต่อเนื่อง พาณิชย์คาด 3-4% สรท.ประเมิน 5% จับตาปัจจัยเสี่ยง "โอมิครอน-ราคา
น้ำมัน-แรงงานขาด" ชี้กลุ่มผลิตภัณฑ์ยาง ยานยนต์ สิ่งทอเครื่องนุ่งห่มสดใส โตเกิน 10% "พาณิชย์" ดัน 5 ยุทธศาสตร์ อัด 159
กิจกรรม หนุนตัวเลขส่งออก
  • "อนุทิน" สั่งการด่วน! ชง ศบค.ปิดระบบ Test & Go จนถึง 31 ม.ค.65 หลังพบติดเชื้อโอมิครอนพุ่ง 1,780 ราย ย้ำ
หลังเดดไลน์ 10 ม.ค. ให้เข้าผ่านภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และกักตัวเท่านั้น สธ.ย้ำตรวจ ATK ก่อนเริ่มทำงาน หรือให้ทำงานที่บ้าน 14 วัน
พร้อมขอประเมินก่อนเคาะบูสต์เข็ม 4
  • เอกชนรับกังวลโอมิครอนระบาดเร็ว ชี้จับตาตัวเลขเดือน ก.พ.65 ลั่นขอไม่ล็อกดาวน์ หวั่นเศรษฐกิจหยุดชะงัก ด้าน
EIC SCB ชี้ ศก.ไทยยังโตช้า ติดตามภาคท่องเที่ยว-ความเชื่อมั่นช่วงต้นปี
  • ประธานสถาบันวิจัยการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน (CTA) เผยการคาดการณ์ว่า รายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศ
ของจีนในปี 2565 จะสูงแตะ 3.81 ล้านล้านหยวน (ราว 19.9 ล้านล้านบาท) และมีการเดินทางรวม 3.98 พันล้านครั้ง คิดเป็นเกือบ
70% ของการเดินทางในปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดโควิด-19
  • ผลสำรวจของสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่นราว 84% มองว่าเศรษฐกิจของประเทศจะขยายตัวในปี
2565 โดยได้แรงหนุนจากการบริโภคส่วนบุคคลที่ฟื้นตัวขึ้น ท่ามกลางความหวังว่าการระบาดของโควิด-19 จะบรรเทาลง
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้นเพียง 0.4% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำ
กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค.
  • ไอเอชเอส มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 57.7 ในเดือน
ธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในปี 2564 จากระดับ 58.3 ในเดือนพ.ย. โดยการร่วงลงของดัชนี PMI มีสาเหตุจากการขาดแคลนวัตถุดิบใน
การผลิต รวมทั้งการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (3 ม.ค.)
โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค.
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันจันทร์ (3 ม.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่
พุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.6% และจากการที่นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยง และหันเข้าซื้อหุ้น หลังคลายความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์
โอมิครอน
  • ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญสัปดาห์นี้ ได้แก่ ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน การจ้างงานภาค
เอกชน ดัชนี PMI และ ISM ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนธ.ค. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน
ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.ย.จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และรายงานการประชุมเฟดเมื่อ 14-15 ธ.ค. 64
  • นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของในวันศุกร์นี้ ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวออกมาแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
การณ์ไว้ ก็อาจจะส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ