สภาความร่วมมือทางเศรษฐกิจภูมิภาคแปซิฟิค (PECC) กล่าวในรายงาน "State of the Region Report 2007-2008" ว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะทรงตัวที่ระดับ 4.9% ในปีหน้า ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นในปี 2552 อีกทั้งระบุว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเผชิญความไม่แน่นอนมากกว่าเมื่อครั้งที่เกิดวิกฤตการณ์การเงินในเอเชียในช่วง 10 ปีที่แล้ว
"เนื่องจากปัญหาในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกหนี้ที่ขาดความน่าเชื่อถือ (ซับไพรม์) ยังคงปรากฏให้เห็น เราจึงคาดว่าความผันผวนในตลาดการเงินจะลุกลามเข้ากระทบเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง"
"นอกจากนี้ เรายังกังวลเรื่องแรงกดดันด้านเงินเฟ้อทั่วโลก รวมทั้งภาวะฟองสบู่อันเนื่องจากการเก็งกำไรในเอเชีย และตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว" PECC กล่าว
ทั้งนี้ PECC คาดว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะขยายตัวขึ้นในอัตรา 4.9% ปีนี้ ลดลงเล็กน้อยจากปี 2549 ที่ระดับ 5.0%
ส่วนในปีหน้านั้น คาดว่าตัวเลข GDP จะเคลื่อนไหวอยูในระดับใกล้เคียงกับในปีนี้ แต่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นและหลายประเทศในเอเชียตะวันออกจะชะลอตัวลงเนื่องจากยอดส่งออกตกต่ำลง
นอกจากนี้ PECC คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะยังคงขยายตัวในอัตราเลขสองหลักไปจนถึงปี 2552 เนื่องจากตัวเลขการลงทุนและการอุปโภคบริโภคขยายตัวขึ้นแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงต่ำกว่าระดับ 2% ในอีก 2 ปีข้างหน้า สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์:
[email protected]