รมว.คลัง ระบุเจบิคส่งตัวแทนทูตแจ้งคำตอบในหลักการให้ไทยกู้สร้างรถไฟฟ้า

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 3, 2007 16:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น(เจบิค)ได้ส่งตัวแทนที่เป็นเจ้าหน้าที่จากสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยมาแจ้งในหลักการให้ทราบว่าเจบิคพร้อมที่จะปล่อยกู้ให้แก่ไทยในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง
แต่ทั้งนี้ในขั้นตอนของเอกสารและการแลกเปลี่ยนสัญญาระหว่างกันนั้น จะต้องใช้เวลาเตรียมการประมาณ 2 เดือน ซึ่งคาดว่าจะตรงกับช่วงรัฐบาลใหม่ แต่ขั้นตอนต่างๆ ที่จะประมูลนั้นสามารถดำเนินการได้ทันที ซึ่งงานโยธางวดแรกมูลค่า 2 หมื่นล้านบาทนั้น น่าจะเริ่มประมูลได้หลังจาก 5 ธ.ค.50 และเริ่มก่อสร้างตามกำหนดในช่วงต้นปีหน้า
"ในหลักการขั้นตอนการอนุมัติเงินกู้จะต้องใช้เวลาอีก 2 เดือน ซึ่งคาดว่าจะลงนามใน Exchange of note ได้ในอีก 2 เดือนหน้า แต่ในช่วงนี้สามารถเริ่มงานประมูลด้านโยธาได้ทันทีหลัง 5 ธ.ค." รมว.คลัง ระบุ
รัฐบาลญี่ปุ่นตกลงให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยกู้เงินโดยผ่านเจบิคในงวดแรกวงเงิน 62,442 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 18,733 ล้านบาท สำหรับใช้ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ โดยเงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่นเป็นเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรน มีอัตราดอกเบี้ยสำหรับการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการในอัตราร้อยละ 1.4 ต่อปี และสำหรับส่วนค่าจ้างที่ปรึกษา อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ต่อปี และมีค่าธรรมเนียมผูกพันเงินกู้ร้อยละ 0.1 ของวงเงินที่ยังไม่ได้เบิกจ่าย กำหนดระยะเวลาการชำระหนี้ 25 ปี รวมระยะเวลาปลอดหนี้เงินต้น 7 ปี
ส่วนเงื่อนไขในการจัดซื้อสินค้าและบริการเปิดโอกาสให้กระทำโดยเสรี โดยสามารถจัดซื้อสินค้าและบริการได้จากทุกประเทศ โดยวิธีประกวดราคานานาชาติ สำหรับกระบวนการจัดซื้อรถไฟฟ้ากระทรวงการคลัง และเจบิคจะดูแลให้มีการดำเนินการอย่างโปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายต่อไป
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ เจบิคจะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบความพร้อมในโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) ที่ไทยขออนุมัติวงเงินกู้จำนวน 6 หมื่นล้านบาท โดยถือว่าเป็นวงเงินที่สูงมาก เนื่องจากเป็นการรวมการลงทุนในตัวรถและระบบอาณัติสัญญาณ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)จะจัดตั้งบริษัทลูกขึ้นมาดำเนินการ ซึ่งแตกต่างจากสายอื่นที่มีการร่วมทุนกับเอกชน
"14 ธ.ค.จะมีคณะของเจบิคเข้ามาดูความพร้อมของโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ซึ่งก็น่าจะพร้อม จากนั้นขั้นตอนต่อไปก็เข้าสู่กระบวนการของเจบิคที่ให้ 3 กระทรวงของญี่ปุ่นพิจารณา ถ้าผ่านก็เข้าสู่สภาฯ" นายพงษ์ภาณุ กล่าว
อย่างไรก็ตาม คาดว่าการเซ็นสัญญาดังกล่าว คงมีขึ้นในรัฐบาลหน้า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ