ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มว่าจะผันผวนต่อไปในสัปดาห์หน้า ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประชุมในวันอังคารที่จะถึงนี้ โดยนักลงทุนยังคงมีข้อสงสัยอยู่ว่า การลดดอกเบี้ยลงอีกและการเพิ่มสภาพคล่อง 2 แสนล้านดอลลาร์ให้กับธนาคารและสถาบันการลงทุนนั้น จะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐหลุดพ้นจากภาวะถดถอยได้หรือไม่ สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า โฮเซ วิสแทน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของเอบี แคปิตอล ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า มีการคาดการณ์กันมากขึ้นว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า หากเฟดลดดอกเบี้ยลง 0.25% ตลาดก็คงจะผิดหวัง แต่ถ้าเฟดลดดอกเบี้ยลง 0.50% ก็คงจะเป็นแรงผลักดันในระดับปานกลาง แต่ถ้าเฟดลดดอกเบี้ยมากถึง 0.75% ก็จะกระตุ้นตลาดได้มาก ด้านโจเซฟ แทน นักยุทธศาสตร์ของฟอร์ทิส แบงค์ กล่าวว่า หลังจากที่มีการออกมาตรการเชิงรุกเพื่อกระตุ้นสภาพคล่องในตลาดและการลดดอกเบี้ยลงอีกครั้งเมื่อเดือนม.ค. ผมไม่คิดว่าเฟดจะมีทางเลือกมากนัก นอกจากลดดอกเบี้ยลง 0.75% อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการรับประกันว่า การลดดอกเบี้ยลงอีกจะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยไปได้ แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวน่าจะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นในตลาด โดยในช่วงที่เหลือของปี น่าจะมีการลดดอกเบี้ยลงอีก และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะลงมาอยู่ในช่วง 1-1.5% นับตั้งแต่เกิดวิกฤตซับไพรม์เมื่อเดือนส.ค.ปีที่แล้ว เฟดได้ลดดอกเบี้ยลงแล้ว 2.25% นักลงทุนจะยังคงจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังมีความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว เนื่องจากภาคการผลิตที่หดตัวลง การผิดนัดชำระหนี้ที่สูงขึ้น และการใช้จ่ายภาคผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง โดยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์หน้า ได้แก่ การผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดขายบ้านใหม่