ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศมาตรการกอบกู้วิกฤตสินเชื่อครั้งใหม่ ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน(discount rate) ลงอีก 0.25% สู่ระดับ 3.25% โดยให้มีผลบังคับใช้ทันที ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานคืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เฟดเรียกเก็บจากธนาคารพาณิชย์ซึ่งกู้ยืมโดยตรงจากเฟด นอกจากนี้ เฟดยังจัดเตรียมวงเงินกู้ประเภทอื่นๆให้กับวาณิชธนกิจรายใหญ่เพื่อผ่อนคลายภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ พร้อมกับอนุมัตการจัดสรรเม็ดเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับแบร์ สเติร์นส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 5 ของสหรัฐ ทั้งนี้ เฟดกล่าวในแถลงการณ์ว่า "มาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อกระตุ้นสภาพคล่องในตลาดและเพื่อให้กลไกในตลาดดำเนินต่อไปได้ การที่เฟดตัดสินใจครั้งนี้เพราะเล็งเห็นว่าตลาดที่มีสภาพคล่องที่ดีถือเป็นสิ่งจำเป็นต่อการผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัว" นักวิเคราะห์กล่าวว่า มาตรการครั้งล่าสุดของเฟดมีเป้าหมายที่จะระงับภาวะตื่นตระหนกในตลาดวอลล์สตรีท หลังจากมีข่าวว่าแบร์ สเติร์นส์ ขาดสภาพคล่องจนต้องขอวงเงินกู้ฉุกเฉินจากเฟดสาขานิวยอร์ก และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า การประชุมตามหมายกำหนดการของเฟดจะมีขึ้นในวันอังคารที่ 18 มี.ค. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์กันในวงกว้างว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.50%