นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง พร้อมนำข้อเสนอของธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.)ขอเพิ่มทุน 1 หมื่นล้านบาท ไปพิจารณาภายใน 1 เดือน หลัง ธอส.ยื่น 7 แนวทางปรับปรุงองค์กรให้เกิดประสิทธิภาพและปรับตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
"แผนเพิ่มทุนหมื่นล้านบาท เป็นหนึ่งในข้อเสนอของ ธอส.เพื่อให้แบงก์มีฐานะที่มั่นคงจนพอดำเนินธุรกิจและมีทุนเพียงพอปล่อยสินเชื่อรองรับการแข่งขันในอนาคต ส่วนกระทรวงการคลังจะเห็นชอบหรือไม่คงต้องดูแผนที่ ธอส.เสนอด้วยว่าจะมีการปรับปรุงในด้านต่างๆ อย่างไรบ้าง เช่น การขยายการทำธุรกรรมต่างๆ การปรับปรุงแผนธุรกิจ หรือการปรับโครงสร้างองค์กร" รมช.คลัง กล่าวภายหลังการมอบนโยบายแก่ ธอส.
สำหรับโครงการบ้านเอื้ออาทรซึ่ง ธอส.ปล่อยสินเชื่อนั้น ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลที่พร้อมสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อยและมีรายได้ปานกลางได้มีบ้านหลังแรกเป็นของตัวเอง โดยได้มีการรับฟังปัญหาและอุปสรรคต่างๆ และถือเป็นโครงการที่ประสบผลสำเร็จแต่อาจจะมีปัญหาบ้าง โดยจะได้หารือร่วมกันเพื่อวางแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป
ด้านนายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า ปัจจุบัน ธอส.มีทุนจดทะเบียน 1.7 หมื่นล้านบาท สามารถปล่อยสินเชื่อได้ 6 แสนล้านบาท โดยมี BIS อยู่ที่ 9-10% ซึ่งเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์อื่นถือว่าเป็นระดับที่ต่ำ ในขณะที่ธนาคารพาณิชย์อื่น BIS อยู่ที่ 12-14% ซึ่งการขอเพิ่มทุน 1 หมื่นล้านบาทนั้นก็เพื่อให้เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต
ส่วนแผนการระดมทุนของธนาคารนั้น ปัจจุบันการระดมเงินทุนของ ธอส.ส่วนใหญ่มาจากเงินฝากจากประชาชน ซึ่งต้องแข่งขันกับระบบธนาคารพาณิชย์ แต่ ธอส.มีความได้เปรียบน้อยเพราะมีสาขาน้อยกว่า
นายขรรค์ ยอมรับว่า การระดมเงินโดยวิธีการทำแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์(ซิเคียวริไทเซชั่น) ด้วยการออกพันธบัตรขายในและต่างประเทศ วงเงินรวม 4 หมื่นล้านบาทนั้น ต้องชะลอออกไปอีกอย่างน้อย 6-9 เดือน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาซับไพร์มในสหรัฐฯ ซึ่งสภาพคล่องของ ธอส.ในปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท เพียงพอต่อการปล่อยสินเชื่อได้อีกระยะหนึ่ง
"เราพยายาม funding เงินระยะยาวให้มากขึ้น เพราะแบงก์ปล่อยสินเชื่อระยะยาว ซึ่งปัจจุบันการ funding เงินระยะสั้นทำให้มีความเสี่ยงและต้องเข้าไปแย่งเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์" นายขรรค์ ระบุ
--อินโฟเควสท์ โดย คลฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--