ธนาคารกลางจีนตัดสินใจขึ้นเพดานสำรองเงินฝากธนาคารพาณิชย์อีก 0.5% มีผลบังคับใช้ตั้งวันที่ 25 มี.ค.นี้ ธนาคารกลางจีนระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะเพิ่มการจัดการสภาพคล่องในระบบธนาคารของจีน และรักษาระดับการขยายตัวด้านสินเชื่อไม่ให้ขยายตัวรวดเร็วเกินไป สำนักข่าวซินหัว ไฟแนนซ์รายงานว่า สำรองเพดานเงินฝากจะเพิ่มขึ้นเป็น 15.5% และการขึ้นเพดานสำรองครั้งนี้นับเป็นการปรับขึ้นครั้งที่สองของปี 2551 หลังจากที่เมื่อปีที่แล้ว ธนาคารกลางได้ขึ้นเพดานสำรองไป 10 ครั้ง ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ได้คาดการณ์อยู่แล้วว่าจะมีความเคลื่อนไหวเช่นนี้จากธนาคารกลางจีน เนื่องจากธนาคารพยายามควบคุมการขยายตัวของสินเชื่อและเงินเฟ้อ ซึ่งพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 12 ปี นายกรัฐมนตรี เหวิน เจียเป่า กล่าวย้ำในวันนี้ว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่รัฐบาลกังวล โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า สภาพคล่องที่มีมากเกินไปเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อของจีนทะยานขึ้น ทางการจีนยังคงเน้นย้ำความจำเป็นในการเดินหน้ามาตรการคุมเข้มต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เศรษฐกิจของประเทศร้อนแรงเกินไป ซึ่งรวมถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการเพิ่มสัดส่วนเงินสดสำรอง นายโจว เสี่ยวฉวน ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าแบงก์ชาติจีนอีก 5 ปีเป็นสมัยที่สองเมื่อวานนี้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ยังมีโอกาสที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก