พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทย โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวอย่างช้าๆ แต่ไม่ถึงกับชะลอตัว เมื่อเทียบตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิดและต้องรักษาสมดุลตรงนี้ให้ได้ เพื่อทำให้เศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง ทำให้แรงงานมีรายได้เพิ่มขึ้น และพยายามรักษาระดับเงินเฟ้อให้อยู่ต่ำกว่า 5% และไทยเป็นกลุ่มประเทศที่เงินเฟ้อต่ำสุดในโลก และดูแลกำกับราคาสินค้าให้ได้มากที่สุด ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำลังพิจารณา ขณะที่ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ยังมีเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้ามาประมาณ 4 หมื่นล้านบาท
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาคธุรกิจยังคงมีความเสี่ยงในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 จึงเป็นเหตุผลให้รัฐบาลจำเป็นเร่งผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไทยมากขึ้น ตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงไฮซีซั่นในช่วงปลายปี
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/65 ที่ขยายตัวได้ 2.2% มาจากการใช้จ่ายของประชาชนเพิ่มขึ้น 3.9% ซึ่งมาจากโครงการต่างๆ ของรัฐบาล การส่งออก โตขึ้น 12% ยอดนักท่องเที่ยวเข้าไทยช่วงไตรมาสแรก เพิ่มขึ้นถึง 2,000% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีข้อมูลล่าสุด ตั้งแต่ต้นปีจนถึง 18 พ.ค.65 มีนักท่องเที่ยวเข้าไทยแล้ว 1.02 ล้านคน โดยทั้งปีนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 7 ล้านคน
สำหรับสถานการณ์เงินเฟ้อ รัฐบาลก็มีความเป็นห่วง โดยเฉพาะจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้สนับสนุนในเรื่องค่าขนส่ง และราคาสินค้า โดยใช้ทั้งมาตรการในการลดภาษีสรรพสามิตและภาษีศุลกากร เพื่อช่วยเหลือต้นทุนการขายปลีก ซึ่งรัฐบาลพยายามช่วยเหลือเต็มที่
ส่วนสถานการณ์เงินบาทที่อ่อนค่านั้น ส่งผลดีต่อการส่งออกโดยเฉพาะทำให้สินค้าเกษตรของไทยมีราคาดี เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น กำลังซื้อในภาคชนบทดี ซึ่งดูได้จากยอดการซื้อรถปิกอัพในภาคใต้