ตลาดหุ้นทั่วเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ (20 มี.ค.) โดยการนำของตลาดหุ้นจีนซึ่งถูกแรงเทขายทำกำไรจนร่วงลงกว่า 3% เนื่องจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ปรับตัวลงลดเมื่อคืนนี้ รวมถึงความวิตกเกี่ยวกับวิกฤติสินเชื่อในสหรัฐ
หุ้นกลุ่มทรัพยากรเป็นแกนนำในการปรับลดลง หลังราคาน้ำมันและราคาทองคำในตลาดโลกทรุดตัวลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรเพราะเงินดอลลาร์เริ่มแข็งค่าขึ้นแล้ว
นอกจากนั้นนักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับวิกฤติสินเชื่อในสหรัฐ หลังมีข่าวเมอร์ริล ลินช์ ยื่นฟ้องบริษัทที่ยังค้างชำระหนี้อยู่
"ตอนนี้สถานการณ์ในตลาดยังคลุมเครือ แม้ตลาดจะถูกแรงเทขายอย่างหนักแต่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าตลาดจะดีดตัวขึ้นอีกครั้งเมื่อใด" ปาร์ค โซ-ยอน นักวิเคราะห์จาก Korea Investment & Securities กล่าว
เมื่อคืนนี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดิ่งลงเกือบ 300 จุด หลังทะยาน 420 จุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เนื่องจากการที่เฟดลดดอกเบี้ยไม่สามารถคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับหนี้สูญที่เป็นปัญหาหนักของธนาคารได้
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงานว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิตตลาดหุ้นจีน ร่วงลง 141.58 จุด หรือ 3.76% แตะ 3,620.02 จุด ขณะที่ชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดตลาดร่วงลง 693.64 จุด หรือ 3.2% แตะ 21,173.30 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดร่วงลง 22.16 จุด หรือ 1.4% แตะที่ 1,600.07 จุด ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ลดลง 45.54 จุด หรือ 1.6% แตะระดับ 2,787.67 จุด
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์:
[email protected]