กระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) ชวนผู้ประกอบการไทยสมัครร่วม "โครงการเปิดโลกการค้ากับทูตพาณิชย์ (Export Clinic)" เพื่อรับคำปรึกษาด้านการค้าและการส่งออก ฟรี! โดยทูตพาณิชย์จาก 5 ภูมิภาค กว่า 33 สำนักงาน โครงการครั้งนี้มีภูมิภาคที่ได้รับความสนใจหลายแห่ง เช่น ภูมิภาคเอเชียใต้ ภูมิภาคตะวันออกกลาง และภูมิภาคเอเชียตะวันออก ภูมิภาคอาเซียน และภูมิภาคจีน รวมไต้หวัน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ พร้อมเดินหน้าส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในทุกรูปแบบ เพื่อให้สามารถขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลก และบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 โดยจะจัดโครงการให้คำปรึกษาโดยทูตพาณิชย์ภูมิภาคต่างๆ ในรูปแบบผสมผสานออนไซต์และออนไลน์ ซึ่งจะมีผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมกาค้าในต่างประเทศให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการผ่านระบบ Zoom Meeting
โครงการนี้ดำเนินการตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้สามารถขยายโอกาสทางการค้าและปรับตัวเพื่อรับมือกับความท้าทายในทุกรูปแบบ พร้อมผลักดันผู้ประกอบการไทยให้ขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ
ทางด้านนายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมฯ ได้มอบหมายให้สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) จัดโครงการเปิดโลกการค้ากับทูตพาณิชย์ (Export Clinic) เพื่อให้คำปรึกษาด้านการค้าระหว่างประเทศกับผู้ประกอบการในการทำตลาดส่งออก ซึ่งสถาบันฯ มีภารกิจหลักในการจัดฝึกอบรม สัมมนา ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศให้กับผู้ประกอบการไทย และเล็งเห็นถึงความสำคัญของการปรับตัวและพัฒนาองค์ความรู้แนวใหม่ให้กับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมที่ต้องการเข้าสู่ตลาดการค้าระหว่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กรมฯ กำหนดจัดโครงการเปิดโลกการค้ากับทูตพาณิชย์ (Export Clinic) ในวันที่ 29 มิถุนายน 2565 เวลา 09.00 - 16.30 น. ในรูปแบบผสมผสานระหว่างออนไลน์และออนไซต์ โดยจะจัดงานรูปแบบออนไซต์ ภายในงาน FTI EXPO 2022 ณ ห้อง B10 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เชียงใหม่ และมีทูตพาณิชย์คนไทยจาก5 ภูมิภาค กว่า 33 สำนักงานทั่วโลกร่วมให้คำปรึกษาผ่านระบบ Zoom Meeting ซึ่งพร้อมเปิดรับผู้ประกอบการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการมากกว่า 200 ลำดับนัดหมาย ผ่านระบบ Zoom Meeting โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้แก่ เมืองดูไบ กรุงเจดดาห์ กรุงเตหะราน กรุงเทลอาวีฟ และกรุงอังการา
- ภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ กรุงจาการ์ตา กรุงย่างกุ้ง กรุงกัวลาลัมเปอร์ กรุงมะนิลา กรุงสิงคโปร์ กรุงฮานอย นครโฮจิมินห์ กรุงพนมเปญ กรุงเวียงจันทน์ และสำนักงานตัวแทนเสียมราฐ
- ภูมิภาคเอเชียตะวันออก ได้แก่ กรุงโตเกียว นครโอซากา สำนักงานตัวแทนฮิโรชิมา กรุงโซล และนครซิดนีย์
- ภูมิภาคเอเชียใต้ ได้แก่ เมืองมุมไบ กรุงนิวเดลี เมืองเจนไน และกรุงธากา
- ภูมิภาคจีน (รวมไต้หวัน) ได้แก่ เมืองฮ่องกง นครเซี่ยงไฮ้ นครคุนหมิง เมืองกวางโจว เมืองชิงต่าว นครเฉิงตู เมืองหนานหนิง เมืองเซี่ยเหมิน และกรุงมะนิลา ส่วนที่ 2 (ไต้หวัน)