นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศ ในไตรมาส 1/65 มีจำนวน 2,107 หน่วย ลดลง 10.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่มีจำนวนหน่วยสูงกว่าค่าเฉลี่ย 2 ปี ในช่วงโควิด-19 (ปี 63-64) ที่มีจำนวน 2,061 หน่วย/ไตรมาส
มูลค่าการโอนห้องชุดรวม 10,262 ล้านบาท ลดลง 6.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการโอนในไตรมาสนี้ สูงกว่าค่าเฉลี่ย 2 ปี ในช่วงโควิด-19 ที่มีมูลค่า 9,683 ล้านบาท/ไตรมาส
ด้านจำนวนหน่วยที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในไตรมาส 1/65 มีจำนวนทั้งหมด 19,886 หน่วย แบ่งออกเป็น การโอนกรรมสิทธิ์ให้ชาวต่างชาติ 10.6% และคนไทย 89.4% สัดส่วนจำนวนหน่วยโอนให้คนต่างชาติลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งมีสัดส่วน 10.7% ในขณะที่มูลค่าการโอนกรรมสิทธิห้องชุดในไตรมาส 1/65 มีจำนวนรวม 52,291 ล้านบาท แบ่งออกเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ให้ชาวต่างชาติ 19.6% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งมีสัดส่วน 17.2%
สัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุดทั่วประเทศ ในไตรมาส 1/65 ได้แก่ ชาวจีน โดยมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดจำนวน 949 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึง 45.0% (ลดลงจากไตรมาส 4/64 ซึ่งมีสัดส่วน 53.7%) รองลงมา ได้แก่ รัสเซีย มีการโอนจำนวน 134 หน่วย (สัดส่วน 6.4%) อันดับสาม สหรัฐอเมริกา จำนวน 114 หน่วย (สัดส่วน 5.4%) อันดับสี่ สหราชอาณาจักร จำนวน 91 หน่วย (สัดส่วน 4.3%) อับดับห้า เยอรมัน จำนวน 81 หน่วย (สัดส่วน 3.8%) ตามลำดับ
ส่วนในด้านมูลค่า สัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศ อันดับแรก คือ จีน มีมูลค่าการโอน 4,570 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 44.5% อันดับรองลงมา คือ รัสเซีย มีการโอนจำนวน 435 ล้านบาท (สัดส่วน 4.2%) อันดับสาม กัมพูชา 401 ล้านบาท (สัดส่วน 3.9%) อันดับสี่ ไต้หวัน 391 ล้านบาท (สัดส่วน 3.8%) อับดับห้า ฝรั่งเศส 390 ล้านบาท (สัดส่วน 3.8%) ตามลำดับ
นายวิชัย กล่าวว่า ภาพรวมการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติ ในไตรมาส 1/65 ยังคงชะลอตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 64 แม้ว่ารัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางของชาวต่างประเทศมายังประเทศไทย ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
แต่เนื่องจากประเทศจีน ซึ่งเป็นกลุ่มกำลังซื้อหลักของห้องชุดยังคงปิดประเทศ และใช้นโยบาย "โควิดเป็นศูนย์" มีการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ โดยทางการจีนได้ห้ามไม่ให้พลเมืองจีนเดินทางไปต่างประเทศ หากไม่มีเหตุที่จำเป็น ทำให้สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของชาวต่างชาติจึงยังไม่ฟื้นตัวในไตรมาสนี้ นอกจากนั้น ยังมีการคาดการณ์ว่าจีนจะยังปิดประเทศไม่ให้ชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศไปจนถึงสิ้นปี 65
"จะเห็นได้ว่า สัดส่วนชาวจีนที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด ลดลงเหลือไม่ถึง 50% เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ชาวจีนไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้" นายวิชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในด้านรัฐบาลไทย มีการดำเนินการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติเป็นระยะๆ เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเต็มรูปแบบในวันที่ 1 มิ.ย. 65 ซึ่งในช่วง 5 เดือนแรกของปี 65 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศแล้วกว่า 1 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีจำนวนไม่ถึง 100,000 คน
นอกจากนั้น รัฐบาลยังได้กำหนดให้ปีนี้เป็น "ปีส่งเสริมท่องเที่ยวไทย 65-66 (Visit Thailand Year 2022-2023)" โดยมีแผนจะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทยไม่น้อยกว่า 300,000-1,000,000 คน/เดือน ซึ่งคาดว่าจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวได้มากถึง 6 ล้านคนในปีนี้ และ 19 ล้านคนในปี 66 หากสถานการณ์การท่องเที่ยวของชาวต่างชาติฟื้นตัวเพิ่มมากขึ้น ก็คาดว่าจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับการซื้อขายตลาด อาคารชุดทดแทนกลุ่มลูกค้าชาวจีนที่ยังไม่สามารถเดินทางมาไทยได้