ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 36.30/34 อ่อนค่าต่อเนื่องตามภูมิภาค ตลาดกังวลภาวะศก.-พลังงานในยุโรป

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 12, 2022 09:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 36.30/34 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 36.11 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องเช่นเดียวกับเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาคเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการอ่อนค่าตามทิศทาง ของเงินยูโร ที่อ่อนค่าใกล้จุดต่ำสุดในปี 2002 จากเหตุผลที่ตลาดกังวลภาวะเศรษฐกิจของยุโรป ประกอบกับปัญหาวิกฤติพลังงานในยุโรป

"ตอนนี้ยูโรอ่อนค่าไปใกล้จะเท่ากับ 1 ดอลลาร์ = 1 ยูโรแล้ว เพราะความกังวลเรื่องเศรษฐกิจในยุโรป รวมทั้งการ จัดหาพลังงาน ที่ความต้องการใช้จะมากขึ้นเมื่อใกล้หน้าหนาว ในขณะที่ยุโรปยังมีมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอยู่" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่าต่อ ให้กรอบที่ 36.24 - 36.50 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (11 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.54492% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.81765%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 137.00/20 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 137.01 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0015/0030 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0105 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 36.012 บาท/ดอลลาร์
  • คลังเตรียมหารือธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงมหาดไทย ขยายมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจด
จำนอง กระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่จะสิ้นสุดปลายปี 2565 หวังลากเศรษฐกิจไทยโตได้ จับตาเงินทุนไหลออก
  • คลังเล็งชง ครม.ต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน 5 บาท อีก 2 เดือน คาดเสียรายได้ 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่
กกพ.เปิดฟังความเห็น 3 แนวทางขึ้นค่าไฟงวดใหม่เป็นครั้งแรก ชี้อาจขึ้นตั้งแต่ 93.43 สต.-1.39 บาท ส่วน กบน.ตรึงราคาดีเซล
34.95 บาทต่อลิตรอีกสัปดาห์
  • "กสิกรไทย" ทุ่มเต็มพิกัด 1 แสนล้าน ลงทุนเทคโนโลยี-เทคโอเวอร์ฟินเทค ปูพรมปล่อยสินเชื่อออนไลน์ ดึงคนไทยเข้าใช้
บริการธนาคาร ตั้งเป้าตัดวงจรหนี้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยโหด แย้มเตรียมผนึกค้าปลีกในต่างจังหวัด ลุยปล่อยสินเชื่อบุคคล ไม่ต้องใช้หลัก
ทรัพย์ค้ำประกัน
  • ธปท.เตรียมแก้หลักเกณฑ์เงื่อนไขดูแลเงินบาท เหตุเกณฑ์ล้าสมัยใช้ตั้งแต่ปี 40 พร้อมเอื้อผู้ให้บริการทางการเงินให้
บริการ "เฮดจิ้ง" กว้างขึ้น บนต้นทุนต่ำลง
  • ยุโรปกำลังเผชิญวิกฤตพลังงาน ขณะที่รัสเซียประกาศยุติการส่งก๊าซธรรมชาติผ่านทางท่อส่ง Nord Stream 1 โดยบริษัท
Nord Stream AG ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการท่อส่ง Nord Stream 1 ยืนยันว่าทางบริษัทได้ปิดท่อส่งดังกล่าวเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นท่อส่งก๊าซ
ธรรมชาติจากรัสเซียมายังเยอรมนีผ่านทางทะเลบอลติก เพื่อทำการซ่อมบำรุงจนถึงวันที่ 21 ก.ค.
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยผลสำรวจพบว่า ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคสหรัฐสำหรับใน
ปีหน้าพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนปิดรับความเสี่ยง และหันเข้าซื้อพันธบัตรในฐานะ
สินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (11
ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในยูโรโซน เนื่อง
จากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นหลังจากราคาน้ำมันทะยานขึ้น อันเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนที่เกิดจากการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 9 เดือนในวันจันทร์ (11 ก.ค.) เนื่องจากการแข็งค่า
ของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด โดยดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นทะลุระดับ 108 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี
  • นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมกำหนดนโยบาย
การเงินในเดือนนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 4.6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการ ประชุมวันที่ 26-27 ก.ค. และให้น้ำหนัก 95.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%

  • นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือน
มิ.ย.ในวันพุธนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี CPI จะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 8.6% ของเดือนพ.ค. รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่สำคัญหลาย
รายการในสัปดาห์นี้ อาทิ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2565, การผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกเดือนมิ.
ย.
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐด้านอื่น ๆ ที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนมิ.ย.จาก

สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB), รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้

ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนก.

ค.จากเฟดนิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ