ผลสำรวจของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งมหาวิทยาลัยเหรินหมิน เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมการส่งออกที่ขยายตัวลดลงหลังได้รับผลกระทบจากวิกฤติซับไพร์มสหรัฐ อาจฉุดจีดีพีของจีนให้ขยายตัวลดลงเหลือ 10.5% ในปีนี้ แต่ก็ยังมากกว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ว่าจะมีการขยายตัวเพียง 8% อุตสาหกรรมการส่งออกของจีนที่เคยเฟื่องฟู มีแนวโน้มว่าจะทรุดลงอย่างหนัก ซึ่งอาจฉุดให้จีดีพีของปีนี้ลดลงเหลือ 10.5% จากเดิมที่ 11.4% ในปีที่แล้วท่ามกลางวิกฤติซับไพร์มและเศรษฐกิจโลกที่กำลังซบเซา หลิว เฟิงเหลียง รองผู้อำนวยการวิทยาลัยเศรษฐกิจแห่งมหาวิทยาลัยเหรินหมิน กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนที่เกรงว่าอาจร้อนแรงเกินไปเริ่มเย็นลงหลังจากที่จีดีพีทะยานแตะ 11.4% เมื่อปีที่แล้ว ในขณะเดียวกัน เกา ซิงหวัง ผู้อำนวยการวิทยาลัยการเงินแห่งมหาวิทยาลัยเหรินหมิน คาดการณ์ว่า จีดีพีจีนจะขยายตัวน้อยกว่า 11.5% ภายใน 2 ปีข้างหน้า แรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อยังคงเป็นปัญหาหลักสำหรับรัฐบาลจีน หลังดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ทะยานเกือบแตะระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี ที่ 8.7% ในเดือนก.พ. นอกจากนั้นราคาโลหะ น้ำมันดิบ และสินค้าเกษตร ยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย ทั้งนี้ ราคาพลังงานโลกที่สูงขึ้น 1% จะหนุนให้ซีพีไอจีนสูงขึ้น 0.1% สำนักข่าวซินหัวรายงาน