นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ประเมินว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 66 ยังมีทิศทางการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องจากปีนี้ โดยเบื้องต้น สศค.ยังคงให้กรอบการขยายตัวไว้ที่ 3.2-4.2% ซึ่งเป็นสมมติฐานที่ใช้ในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ส่วนที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 66 มีโอกาสจะขยายตัวได้ 4.2% นั้น สศค.ก็มีความเห็นที่สอดคล้องกัน
สำหรับเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 2/65 สศค.เชื่อว่าจะสามารถขยายตัวได้ดีกว่าไตรมาส 1/65 ที่ขยายตัว 2.2% ซึ่งตัวเลขอย่างเป็นทางการนั้นสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) จะรายงานในเดือนส.ค.
"จากที่ สศค.ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปี 65 จะเติบโตได้ 3.5% นั้น ก็เป็นเครื่องสะท้อนว่า ในช่วงไตรมาส 2 ต่อเนื่องไปไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้ ทิศทางเศรษฐกิจไทยยังเติบโตได้ต่อเนื่อง" นายพรชัย กล่าว
พร้อมระบุว่า ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เศรษฐกิจไทยจะขยายได้ชัดเจนมากขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญจากภาคการท่องเที่ยวที่มีทิศทางดีขึ้น หลังหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทาง อันเนื่องจากการระบาดของโรคโควิดคลี่คลายลง รวมทั้งที่ไทยได้ปลดล็อก Thailand Pass ด้วย ซึ่งส่งผลให้เริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่อยู่ในช่วงขาขึ้นนั้น นายพรชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมา ธปท. ได้ส่งสัญญาณมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เชื่อว่าธนาคารพาณิชย์ทั้งหมดจะสามารถบริหารจัดการต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาจออกแพ็คเกจโปรโมชั่นเพื่อรักษาลูกค้าไว้ ขณะที่นิติบุคคลส่วนใหญ่เริ่มหันมาระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้มากขึ้น โดยในปีนี้คาดว่าจะมีการออกหุ้นกู้ราว 1.2 ล้านล้านบาทก่อนต้นทุนทางการเงินจะปรับสูงขึ้น
"มีการส่งสัญญาณมาตลอดว่าดอกเบี้ยมีทิศทางขาขึ้น ที่ผ่านมา ธนาคารส่วนใหญ่ก็เริ่มมีการปรับตัว เพื่อรองรับกับต้นทุนที่จะสูงขึ้น ส่วนผลกระทบกับประชาชนอาจจะต้องรอดูว่าธนาคารจะดำเนินการอย่างไร แต่เชื่อมั่นว่าธนาคารทั้งรัฐและเอกชนจะไม่ทิ้งลูกค้าอย่างแน่นอน" นายพรชัย กล่าว