กบง. เคาะแพคเกจมาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมัน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 8, 2022 10:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลต่อเงินเฟ้อและราคาพลังงานที่ยังอยู่ในระดับสูงทั่วโลก ซึ่งมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงพลังงาน (พน.) ได้ออกมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น เพื่อเป็นการลดภาระค่าครองชีพ บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการมาอย่างต่อเนื่องนั้น

โดยที่ประชุม กบง. ได้มีการพิจารณาแนวทางบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมัน รวมถึงการทบทวนกำหนดราคา LPG และ NGV เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยมีมติเห็นชอบการขยายมาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. -31 ธ.ค.65 โดยให้คงสัดส่วนผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ร้อยละ 5 (B5) และขอความร่วมผู้ค้าน้ำมันคงค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซล ไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร ทั้งนี้กระทรวงพลังงาน จะติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมันอย่างใกล้ชิด หากมีการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ปาล์มน้ำมันที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันปาล์ม ให้นำเสนอ กบง. พิจารณาต่อไป

พร้อมทั้ง เห็นชอบให้ตรึงราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม (LPG) ในเดือนต.ค. ที่ราคา 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม 1 เดือน (1-31 ต.ค.65) และมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน จัดทำแนวทางการช่วยเหลือ มุ่งเป้า LPG ภาคครัวเรือน เพื่อลดผลกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชน

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของสถานการณ์ราคา NGV ที่ผ่านมา กบง. ได้มีมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการที่ใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงมาโดยตลอด ส่งผลให้ปัจจุบันบมจ.ปตท. (PTT) มีภาระการช่วยเหลือราคา NGV (ตั้งแต่ 1 พ.ย.64 - 15 ก.ย.65) รวม 6,757 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 64 ถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ต้นทุนราคา NGV ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มว่าต้นทุนราคาก๊าซ NGV ในช่วงปลายปี 65 อาจปรับตัวสูงขึ้นอยู่ในช่วง 29 ถึง 34 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่ภาครัฐยังคงราคาขายปลีกก๊าซ NGV สำหรับรถยนต์ทั่วไปอยู่ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งทำให้เกิดการแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการในธุรกิจ NGV

ดังนั้น เพื่อลดการบิดเบือนราคาพลังงานและให้ประชาชนตระหนักรู้ถึงต้นทุนราคาพลังงานที่ปรับตัวอยู่ในระดับสูง กบง. จึงมีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซ NGV สำหรับรถยนต์ทั่วไปเพียง 1 บาทต่อกิโลกรัม จาก 15.59 บาทต่อกิโลกรัมเป็น 16.59 บาทต่อกิโลกรัม โดยมอบหมายให้กระทรวงพลังงานขอความร่วมมือ บมจ.ปตท.

ทั้งนี้ ให้ สนพ.ติดตามสถานการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติอย่างใกล้ชิดหากมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญให้นำเสนอ กบง. เพื่อพิจารณาการกำหนดราคา NGV ที่เหมาะสมในระยะต่อไป และให้คงมาตรการช่วยเหลือกลุ่มรถแท๊กซี่ในโครงการ NGV เพื่อลมหายใจเดียวกันของ ปตท. โดยให้สามารถซื้อก๊าซ NGV ได้ในราคาเดิมที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.65 ถึงวันที่ 15 ธ.ค.65

ที่ประชุม กบง. ได้มีการพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การคำนวณราคาเชื้อเพลิงชีวภาพ (ไบโอดีเซล และ เอทานอล) โดยได้มีมติเห็นชอบ (1) หลักเกณฑ์การคำนวณราคาไบโอดีเซลอ้างอิง ใช้หลักเกณฑ์การคำนวณราคาอ้างอิงจากต้นทุนการผลิต (Revised Cost Plus) โดยลดวัตถุดิบเหลือ 2 ชนิด คือ น้ำมันปาล์มดิบ (CPO) และสเตียรีน (ST) และ ปรับอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) ที่ 5% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.65 เป็นต้นไป (2) ยังคงหลักเกณฑ์การคำนวณราคาเอทานอลอ้างอิง ตามการคำนวณราคาอ้างอิงราคาตลาด (Market Price) โดยใช้ราคาจากการเปรียบเทียบราคาต่ำสุดระหว่างเอทานอลเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่ผู้ผลิตรายงานต่อกรมสรรพสามิต กับราคาเอทานอลเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 รายงานต่อ สนพ. โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ กบง. ได้มีมติเห็นชอบการทบทวนประมาณการงบประมาณตามแนวทางการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่สูงขึ้น ของกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน ในพื้นที่ของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) รวมทั้งผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่บริการของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กิจการไฟฟ้าสวัสดิการฯ) เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่ค่าไฟฟ้าประจำเดือนก.ย.65 ถึงเดือนธ.ค.65


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ