ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 36.99 อ่อนค่าจากช่วงเช้าตามภูมิภาค หลังมีแรงซื้อดอลลาร์เข้ามาต่อเนื่อง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 19, 2022 17:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 36.99 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 36.86 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทอ่อนค่าตามทิศทางสกุลเงินในภูมิภาค ซึ่งนำโดยเงินหยวนของจีนที่วันนี้อ่อนค่ามากสุดในภูมิภาค ระหว่างวันเงินบาท อ่อนค่าไปแตะ 37 บาท/ดอลลาร์อีกครั้ง ซึ่งวันนี้ยังมีแรงซื้อดอลลาร์เข้ามาต่อเนื่อง ในระหว่างที่ตลาดยังรอผลการประชุมธนาคารกลาง สหรัฐ (เฟด) ในช่วงกลางสัปดาห์นี้

"ปิดตลาดวันนี้ เงินบาทอ่อนค่าลงไปอีกจากช่วงเช้า ระหว่างวันไปแตะที่ 37 บาท โดยวันนี้เงินบาทแข็งค่าสุดที่ 36.82 บาท และอ่อนค่าสุดที่ 37.04 บาท ตามทิศทางเงินหยวน ที่อ่อนค่านำสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.90 - 37.05 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 143.49 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 143.03 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 0.9969 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0007 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,631.57 จุด เพิ่มขึ้น 1.17 จุด (+0.07%) มูลค่าการซื้อขาย 60,159 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 633.34 ลบ.(SET+MAI)
  • คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลสัปดาห์นี้ไว้ที่ 34.94 บาทต่อลิตร
แม้สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะลดลง แต่ยังคงมีความผันผวน จึงต้องมีการพิจารณาเป็นรายสัปดาห์ต่อไป และจะไม่มีการลอยตัว
ราคาน้ำมันดีเซลอย่างแน่นอน
  • กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ปรับลดระดับศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านสาธารณสุข (EOC) โรคฝีดาษลิง จากระดับกระทรวง
กลับลงมาเป็นระดับกรมตามเดิม หลังจากสถานการณ์ระบาดในประเทศช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเพียง 8 ราย ไม่พบการแพร่เชื้อไป
ยังผู้สัมผัสเสี่ยงสูง แสดงให้เห็นว่าเป็นโรคที่ไม่ได้ติดต่อกันโดยง่าย สอดคล้องกับสถานการณ์ผู้ป่วยของทั่วโลกที่แนวโน้มลดลง
  • นักเศรษฐศาสตร์ มองภาพรวมเศรษฐกิจจีนเป็นขาลง แม้ข้อมูลเศรษฐกิจหลายภาคส่วนของจีนเมื่อสัปดาห์ก่อนซึ่งรวมถึง
ยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจะออกมาแข็งแกร่งกว่าที่คาด โดยได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ของจีนลงจาก 3% เหลือ 2.7% ในปี
2565 และจาก 5.4% ลงเหลือ 4.6% ในปี 2566 เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ยังเป็นอุปสรรคสำคัญต่อเศรษฐกิจ
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) ลดอัตราดอกเบี้ยธุรกรรมการซื้อหลักทรัพย์โดยมีสัญญาขายคืน (Reverse Repo) ระยะ 14
วันในวันนี้ (19 ก.ย.) พร้อมยกระดับการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบธนาคาร เพื่อรับมือกับอุปสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงใกล้สิ้นสุดไตรมาส 3/65
  • กระทรวงพาณิชย์จีน เปิดเผยว่า ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่ไหลเข้าสู่จีนในช่วง 8 เดือนแรก เพิ่ม
ขึ้น 16.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 8.9274 แสนล้านหยวน หรือคิดเป็น 1.3841 แสนล้านดอลลาร์ โดยอุตสาหกรรมด้านการ
บริการมียอด FDI เพิ่มขึ้น 8.7% แตะที่ 6.6213 แสนล้านหยวน ส่วนอุตสาหกรรมไฮเทคของจีนมียอด FDI พุ่งขึ้น 33.6%
  • นักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า ธนาคารพาณิชย์ของจีนจะตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับเดิมในสัปดาห์นี้ เนื่องจากธนาคาร
กลางจีน (PBOC) มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี (LPR) ทั้งประเภท 1 ปีและ 5 ปีในวันพรุ่งนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ