นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 37.39 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวในระดับ เดียวกับปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้ ถึงแม้เมื่อคืนตัวเลขดัชนี ISM ภาคบริการของสหรัฐฯ จะออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่ปัจจัยสำคัญที่ ตลาดรอดูคือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในคืนวันศุกร์
"บาทเปิดตลาดทรงตัวเท่ากับช่วงเย็นวานนี้เช่นเดียวกับค่าเงินภูมิภาค ช่วงนี้ต้องจับตาดู Flow ที่เข้ามาลงทุนในตลาด พันธบัตร และราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้นหลังโอเปคมีมติปรับลดกำลังการผลิต" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 37.25 - 37.50 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (5 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.98231% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.02768%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 144.48 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 144.47 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 0.9915 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 0.9927 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 37.402 บาท/ดอลลาร์
- กกร. ปรับประมาณการจีดีพีโตได้อย่างน้อย 3% หวังปีนี้ต่างชาติเที่ยวไทย 10 ล้านคน ห่วงน้ำท่วมเสียหาย 5,000-
10,000 ล้านบาท จับตาเงินเฟ้อ-เศรษฐกิจโลกถดถอย ด้านพาณิชย์คาดเงินเฟ้อทั้งปี 5.5-6.5%
- ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในที่ประชุมครม. โดยให้ทุกหน่วยงานเตรียมการรอง
รับการแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชน ซึ่งสำนักงบประมาณ ได้จัดเตรียมงบประมาณไว้รองรับแล้ว แต่
ต้องรอให้สถานการณ์น้ำคลี่คลายและให้กระทรวงมหาดไทยสำรวจความเสียหายให้ชัดเจนก่อน โดยอาจใช้งบปกติของหน่วยงานหรือเสนอขอ
ใช้งบประมาณจากงบกลางได้
- กรมการค้าภายในถกห้างค้าปลีกค้าส่งรับมือสถานการณ์น้ำท่วม ยันสินค้ามีเพียงพอ การจัดส่งยังทำได้ปกติ ไม่ต้องกังวล ไม่
ต้องกักตุน กำชับห้างเพิ่มปริมาณสต๊อกสินค้าที่คนต้องการซื้อมาก
- ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของอังกฤษลงสู่ระดับ "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ" ในวันพุธ (5 ต.
ค.) โดยระบุว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ของรัฐบาลมีความเสี่ยงที่จะทำให้ตัวเลขขาดดุลงบประมาณของอังกฤษปรับตัวสูงขึ้น
- สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ได้ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AA ของอังกฤษลงสู่ "เชิงลบ" จาก "มี
เสถียรภาพ" เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากวิตกว่า แผนการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ของนางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรี จะทำให้หนี้สิน
ของอังกฤษเพิ่มสูงขึ้น
- อโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 208,000 ตำแหน่ง
ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง จากระดับ 185,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.
- สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.ของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 56.7 ซึ่งแม้ว่า
ชะลอตัวลงจากระดับ 57.9 ในเดือนส.ค. แต่ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 56 และสูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึง
การขยายตัวของภาคบริการ โดยดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.ของสหรัฐได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของการจ้างงาน
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขขาดดุลการค้าสหรัฐลดลง 4.3% สู่ระดับ 6.74 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. ซึ่ง
เป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2564 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.77 หมื่นล้านดอลลาร์
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (5 ต.ค.) หลัง
จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐดีดตัวขึ้น
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (5 ต.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการพุ่งขึ้นของ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ
- นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาด
การณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 265,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากพุ่งขึ้น 315,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่า
อัตราว่างงานเดือนก.ย.จะทรงตัวที่ระดับ 3.7%