KBANK มองกรอบบาทสัปดาห์หน้า 37.50-38.50 ดู Flow-ประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน-ตัวเลขศก.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 13, 2022 08:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า (17-21 ต.ค.65) ไว้ที่ระดับ 37.50-38.50 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ กระแสเงินทุนต่างชาติ (Flow) สถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาค และการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือน ต.ค., ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรม, การเริ่มสร้างบ้านและยอดขายบ้านมือสองเดือน ก.ย. และรายงาน Beige Book นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ย.ของอังกฤษ ยูโรโซน และญี่ปุ่น ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจจีน ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 3/65 การผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือน ก.ย. รวมถึงการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีนด้วยเช่นกัน

เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลง ทั้งนี้เงินบาทอ่อนค่าผ่านแนว 38.00 บาท/ดอลลาร์อีกครั้ง สอดคล้องกับแรงเทขายสกุลเงินเอเชียในภาพรวม ขณะที่เงินดอลลาร์ขยับแข็งค่าขึ้นตามทิศทางบอนด์ยีลด์ของสหรัฐฯ หลังจากข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐฯ เดือน ก.ย.ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดหนุนการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุม FOMC เดือน พ.ย.นี้ นอกจากนี้การอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติในระหว่างสัปดาห์ด้วยเช่นกัน

สกุลเงินเอเชียและเงินบาทเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมในช่วงกลางสัปดาห์ ขณะที่เงินดอลลาร์ขยับเพิ่มช่วงบวกได้จากสัญญาณเร่งคุมเข้มนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ของเจ้าหน้าที่เฟด ประกอบยังมีแรงหนุนจากการเป็นสกุลเงินปลอดภัย หลังจากที่ IMF ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกในปีหน้าลงมาที่ 2.7% ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน สถานการณ์โควิดในจีน และการคุมเข้มนโยบายการเงินของสหรัฐฯ

ในวันพุธที่ 12 ต.ค.65 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 38.04 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ 37.40 บาท/ดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (7 ต.ค.65) ขณะที่ระหว่างวันที่ 10-12 ต.ค.65 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 4,784 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Outflow ออกจากตลาดพันธบัตร 9,837 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 8,068 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่หมดอายุ 1,769 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ