BAY ให้กรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ 35.60-36.35 จับตาทิศทางนโยบายของเฟด-กนง.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 28, 2022 15:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 35.60-36.35 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าเล็กน้อยที่ 35.77 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 35.57-36.30 บาท/ดอลลาร์ เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังรายงานประชุมเมื่อวันที่ 1-2 พ.ย.65 ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) บ่งชี้ว่าผู้กำหนดนโยบายส่วนใหญ่เห็นสมควรที่จะชะลอความเร็วในการปรับขึ้นดอกเบี้ยในไม่ช้านี้

ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับตัวรับดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และเฟดเริ่มหารือกันเรื่องความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงินและเศรษฐกิจจากการเร่งคุมเข้มนโยบาย โดยรายงานการประชุมสะท้อนว่าสิ่งที่สำคัญกว่าขนาดการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต คือการที่เฟดเริ่มมุ่งความสนใจไปยังประเด็นที่ว่าจำเป็นจะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับใดเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ อีกทั้งเฟดประเมินว่าโอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 66 นั้นเกือบที่จะเท่ากับโอกาสของกรณีฐาน ทั้งนี้ เงินดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าลงขณะที่ราคาสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สิ้นปี 64 ท่ามกลางความวิตกต่อแนวโน้มอุปสงค์จากจีนและเศรษฐกิจโลก โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยมูลค่า 5,388 ล้านบาท แต่มียอดขายพันธบัตรสุทธิ 11,665 ล้านบาท

สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ฯ มองว่า นักลงทุนจะติดตามความเห็นประธานเฟด รวมถึงข้อมูลค่าใช้จ่ายผู้บริโภคและการจ้างงานของสหรัฐฯ เพื่อประเมินทิศทางการดำเนินนโยบายของเฟดต่อไป โดยคาดว่าประธานเฟดจะยังคงสื่อสารว่าเฟดให้น้ำหนักต่อการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อสูงเป็นอันดับแรกและพยายามลดการคาดการณ์ของตลาดที่ว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยก่อนสิ้นปี 2566 นอกจากนี้ความเสี่ยงเกี่ยวกับภาวะการแพร่ระบาดของโควิด-19 สู่จุดสูงสุดใหม่และการประท้วงในวงกว้างต่อมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดในจีนอาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นขณะที่ราคาสินทรัพย์เสี่ยงถึงรอบปรับฐานลง

ขณะที่ปัจจัยในประเทศ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)จะมีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25bp เป็นครั้งที่สามติดต่อกันสู่ระดับ 1.25% ในการประชุมวันที่ 30 พ.ย.65 ขณะที่ตลาดจะจับตาการประเมินภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของผู้ดำเนินนโยบายซึ่งคาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะแตะระดับสูงสุดภายในต้นปี 2566


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ