นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.12 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.00 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 34.90 - 35.14 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทอ่อนค่าเช่นเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค ระหว่างวันยังไร้ปัจจัยใหม่ ตลาดยังย่อยข่าวตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดัชนีผู้ จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (ISM) ที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ โดยตลาดมองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่เคยคาด ไว้ ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงิน
นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.90 - 35.15 บาท/ดอลลาร์ โดยช่วงนี้ต้องติดตามทิศ ทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 136.73 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 136.47 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0497 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0504 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,632.97 จุด ลดลง 8.66 จุด (-0.53%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 62,673 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 4,199.43 ลบ. (SET+MAI)
- นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะพิจารณามาตรการช้อปดีมีคืน และเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 ใน
ช่วงหลังกลับจากการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 ธ.ค. นี้ เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่
ในขั้นตอนทางกฎหมาย รวมถึงการจัดเตรียมงบประมาณ ซึ่งจะต้องมีการตัดสินใจร่วมกันอีกครั้ง
- รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาขยาย
เวลาการเปิดสถานบันเทิงออกไปถึงเวลา 04.00 น. ว่า คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของกระทรวงสาธารณสุข มีมติว่ายัง
ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะการขยายเวลาเปิดไปถึงตี 4 จะต้องรักษาสมดุลในทุกมิติ และเห็นว่าการเปิดให้บริการถึงเวลา 02.00 น.
ก็น่าจะเหมาะสมแล้วสำหรับสถานการณ์ในปัจจุบันที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของโควิด-19
- สภาผู้ส่งออก ประเมินว่า การส่งออกของไทยในปี 66 จะขยายตัวได้ราว 2-3% คิดเป็นมูลค่าราว 3 แสนล้านบาท ซึ่ง
เป็นการเติบโตแบบอัตราหน่วง โดยปีหน้ามีปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตา คือ ประเทศจีนจะผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ได้มากน้อยเพียงใด
เพราะจะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนเรื่องการเดินทาง และการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังต้องจับตาดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของ
หลายประเทศโดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ขณะนี้มีการปรับตัวลดลง
- ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เปิดเผยว่า ในปี 66 ถือว่ายังเป็นปีที่ยังน่าเป็นห่วงกว่าปี 65 จากความเสี่ยงที่มี
มากขึ้น และต่อเนื่องมาจากปีนี้ ได้แก่ ปัญหาสงครามรัสเซียที่ยังมีความยืดเยื้อ การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และการที่จีนยัง
คงดำเนินนโยบาย Zero-Covid
ด้านเศรษฐกิจไทยปี 66 ธนาคารประเมินอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยไว้ที่เติบโต 3.4% สูงขึ้นกว่าปี 65 ที่เติบโต 3.2% มาจากการฟื้นตัวหลักของภาคการท่องเที่ยวจากต่างชาติที่มากขึ้น โดยคาดว่าปีหน้าจำนวนนักท่องเที่ยวจะอยู่ที่ 20 ล้านคน
- ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มขึ้น 0.125-0.25% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้า
รายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate) ปัจจุบันอยู่ที่ 5.995% เป็น 6.120% ต่อปี, อัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี
(Minimum Loan Rate) ปัจจุบันอยู่ที่ 5.500% เป็น 5.750% ต่อปี, อัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิก
เกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate) ปัจจุบันอยู่ที่ 6.095% เป็น 6.345% ต่อปี ขณะที่ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มขึ้นสูงสุด
0.45% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยใหม่อยู่ระหว่าง 0.25-1.40% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยใหม่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. 65 เป็นต้นไป
- สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรง
พยาบาลด้วยโรคโควิด-19 โดยเฉลี่ยรายวันในประเทศเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางการกลับมาแพร่ระบาดในช่วงฤดูหนาว
- ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 3.1% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็น
การปรับขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 พร้อมกับกล่าวว่า RBA จะใช้ความยืดหยุ่นสำหรับการตัดสินใจในอนาคต หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อ
ส่งสัญญาณชะลอตัวลงเล็กน้อย และราคาบ้านปรับตัวลง
- จีนรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ทางการจีนกำลังผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ด้วย
การยกเลิกข้อกำหนดที่ประชาชนต้องแสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นลบก่อนเข้าใช้บริการในสถานที่สาธารณะ ซึ่งรวมถึงสวนสาธารณะ
- ผลสำรวจโดยบริษัทโอลิเวอร์ ไวแมนเปิดเผยในวันนี้ว่า ชาวจีนมากกว่าครึ่ง ระบุว่า พวกเขาจะชะลอแผนการเดินทาง
ท่องเที่ยวต่างประเทศออกไปตั้งแต่หลายเดือนจนถึงมากกว่า 1 ปี แม้ทางการจีนทำการเปิดพรมแดนตั้งแต่วันพรุ่งนี้ก็ตาม ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่ง
ชี้ว่า การฟื้นตัวของภาคผู้บริโภคหลังจากการใช้มาตรการคุมเข้มโควิด-19 นั้น ยังคงต้องใช้เวลา
- กระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ว่า การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นใน
เดือนต.ค.เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นและค่าจ้างที่แท้จริงลดลง ซึ่งนับเป็นการเริ่มต้นไตรมาสสุดท้ายของปี 65 ที่ดี
เกินคาด