BAY คาดบาทสัปดาห์นี้ 34.55-35.30 ลุ้นเงินเฟ้อสหรัฐฯ-ประชุมเฟด

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 13, 2022 15:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.55-35.30 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 34.78 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายช่วงกว้างระหว่าง 34.67-35.16 บาท/ดอลลาร์

เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลว่า การขึ้นดอกเบี้ยอาจจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคของจีนหนุนเงินหยวนแข็งค่าขึ้น แม้หลายฝ่ายคาดว่าการผ่อนปรนดังกล่าวจะไม่ราบรื่นนัก ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ลดลงจากความเสี่ยงด้านขาลงของเศรษฐกิจรวมถึงราคาน้ำมันดิบซึ่งแตะระดับต่ำสุดของปีนี้ ทางด้านเงินดอลลาร์แคนาดาเผชิญแรงกดดัน หลังธนาคารกลางแคนาดาขึ้นดอกเบี้ย 50bp สู่ระดับ 4.25% ซึ่งสูงสุดในรอบเกือบ 15 ปี พร้อมส่งสัญญาณว่าการขึ้นดอกเบี้ยใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ 5,148 ล้านบาท แต่มียอดซื้อพันธบัตร 14,149 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ฯ มองว่า ตลาดจะติดตามดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ย.ของสหรัฐฯและผลการประชุมดอกเบี้ยเฟดในวันที่ 13-14 ธ.ค. ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 50bp สู่ 4.25-4.50% โดยนักลงทุนจะให้ความสนใจกับประมาณการดอกเบี้ย (dot plot) และแนวโน้มเศรษฐกิจรวมถึงเงินเฟ้อฉบับล่าสุดของเจ้าหน้าที่เฟด นอกจากนี้ ยังมีการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) วันที่ 15 ธ.ค. ทั้งนี้ คาดว่าตลาดอัตราแลกเปลี่ยนจะผันผวนสูง หลังธนาคารกลางหลักหลายแห่ง ประกาศผลการประชุมรอบสุดท้ายของปีนี้

ส่วนปัจจัยในประเทศ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือน พ.ย.เพิ่มขึ้น 5.55% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ โดยเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมอาหารสดและพลังงานเพิ่มขึ้น 3.22% สูงกว่าคาดเล็กน้อย กระทรวงพาณิชย์คงประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปีนี้ที่ 6.0% และคาดว่าในปี 66 จะอยู่ที่ 2.5% โดยเป็นผลของฐานเปรียบเทียบที่สูง และราคาพลังงานที่ลดลง

"ข้อมูลดังกล่าว สนับสนุนมุมมองของเราที่ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปจาก 1.25% ในปัจจุบันสู่ระดับ 1.75% ในไตรมาส 1/66 ก่อนจะคงดอกเบี้ยหลังจากนั้น" บทวิเคราะห์ ระบุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ