ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.93/97 แนวโน้มยังแข็งค่า ให้กรอบพรุ่งนี้ 33.80-34.00

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 5, 2023 17:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 33.93/97 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ เปิดตลาดที่ระดับ 33.92 บาท/ดอลลาร์

ทิศทางเงินบาทในช่วงนี้คาดว่ายังมีแนวโน้มแข็งค่า โดยหลักๆ มาจากนักลงทุนต่างชาติที่เข้าซื้อพันธบัตรของไทยอย่างต่อ เนื่อง รวมทั้งการประชุมร่วม 3 กระทรวงวันนี้ ในการเตรียมรับนักท่องเที่ยวจีน หลังเปิดประเทศตั้งแต่ 8 ม.ค. พบว่า มาตรการค่อน ข้างเปิดกว้างในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ไม่ได้เข้มงวดมากเหมือนในแถบยุโรป

ขณะที่การรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค.65 และแนวโน้มในปี 66 มีทิศทางที่ชะลอตัวลง ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อว่า คณะ กรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะไม่เร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงเหมือนกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ส่วนคืนนี้ นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในการรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีผู้จัดการ ฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนธ.ค.

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.80 - 34.00 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 132.52 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 132.06 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0626 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0617 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,663.86 จุด ลดลง 9.39 จุด (-0.56%) มูลค่าการซื้อขาย 85,209 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,272.99 ลบ. (SET+MAI)
  • กระทรวงพาณิชย์ คาดอัตราเงินเฟ้อปี 66 จะอยู่ในกรอบ 2-3% ชะลอตัวลงจากในปี 65 จากสาเหตุ 1.ราคาสินค้าส่วน
ใหญ่เริ่มทรงตัวหลังจากปรับขึ้นราคาไปก่อนหน้านี้ 2.ราคาพลังงาน ชะลอตัวลงตามอุปสงค์โลกที่ลดลง 3.ฐานราคาที่สูงในปี 65 และ 4.
ภาครัฐยังมีมาตรการลดค่าครองชีพให้ประชาชน
  • กระทรวงพาณิชย์ เผยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ธ.ค.65 เพิ่มขึ้น 5.89% จากช่วงเดียวกันของปี 64 ส่งผลให้อัตรา
เงินเฟ้อทั้งปี 65 เฉลี่ยอยู่ที่ 6.08% ถือว่าสูงสุดในรอบ 24 ปี นับตั้งแต่ปี 2541 ที่เงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ 8.1% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
(Core CPI) เดือนธ.ค.65 เพิ่มขึ้น 3.23% เฉลี่ยทั้งปีที่ 2.51%
  • "อนุทิน" เผยผลประชุมร่วม 3 กระทรวง เตรียมรับนักท่องเที่ยวจีนหลังเปิดประเทศ รวมทั้งผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ
ในปี 66 ว่า จะไม่มีการเลือกปฏิบัติกับประเทศใดเป็นพิเศษ โดยมาตรการด้านสาธารณสุขนั้น ก่อนเดินทางเข้าไทย จะต้องฉีดวัคซีนโควิด-
19 อย่างน้อย 2 เข็ม และหากมีอาการป่วยโรคทางเดินหายใจ แนะนำให้เลื่อนการเดินทาง และรักษาให้หายก่อนเดินทางเข้าไทย พร้อม
กับแนะนำให้ซื้อประกันสุขภาพเดินทางที่ครอบคลุมการรักษาโควิด-19 ก่อนเข้าไทย เพื่อลดภาระการใช้จ่ายด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในช่วง
พำนักในประเทศไทย
  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่า ในเดือนม.ค.66 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทย 60,000
คน เดือนก.พ. 90,000 คน และเดือนมี.ค. 1.5 แสนคน โดยตั้งเป้านักท่องเที่ยวจีนปี 66 ไว้ที่ 5 ล้านคน และจะมีการปรับเป้าหมาย
นักท่องเที่ยวทั้งปีจากเดิม 20 ล้านคน เป็น 25 ล้านคน หลังจากจีนเปิดประเทศ
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ชี้ว่า ปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ยังไม่ถึงจุดจบ โดยยังเร็วเกินไปที่ธนาคารกลาง
สหรัฐ (เฟด) จะประกาศชัยชนะในการต่อสู้กับเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น พร้อมเรียกร้องให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ เพื่อสกัด
เงินเฟ้อ
  • องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ข้อมูลโควิด-19 ที่จีนเปิดเผยออกมานั้น ไม่สะท้อนภาพความเป็นจริงของสถานการณ์
แพร่ระบาดในประเทศ โดยแสดงตัวเลขผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
  • จีนได้กลับมาอนุมัติให้กองทุน Private Equity (PE) สามารถระดมเงินทุนสำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่
อาศัยได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในความเคลื่อนไหวล่าสุดที่มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ยังชะลอตัวลง โดยกองทุนไพร
เวทอิควิตี้ คือ กองทุนที่ลงทุนในหุ้นของบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์
  • สมาชิกสหภาพยุโรป (EU) หลายชาติ แนะให้เร่งออกข้อจำกัดใหม่ในการรับมือกับผู้โดยสารที่เดินทางจากจีนมายังประเทศ

ต่าง ๆ ใน EU เช่น การสนับสนุนให้มีการบังคับตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทาง แต่ทั้งนี้ไม่ได้เพิ่มกฎเกณฑ์ใหม่สำหรับเที่ยวบินต่าง ๆ แต่

อย่างใด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ