(เพิ่มเติม) ปตท.ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันทุกผลิตภัณฑ์ 50 สต./ลิตร พรุ่งนี้

          นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บมจ.ปตท.(PTT) เปิดเผยว่า ประกาศปรับราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศทุกผลิตภัณฑ์ขึ้นอีกลิตรละ 50 สตางค์ ตั้งแต่เวลา 05.00 น.วันที่ 19 ม.ย.เป็นต้นไป เนื่องจากค่าการตลาดติดลบเกือบลิตรละ 3 บาท
          "ต้นทุนเนื้อน้ำมันที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ ปตท.ต้องรับภาระจากค่าการตลาดที่ติดลบ 1.02 บาท/ลิตร หรือทุกลิตรที่ขายเท่ากับขาดทุน 2.52 บาท/ลิตร ปตท.จำเป็นต้องปรับราคาน้ำมันทุกชนิดขึ้น 50 สตางค์/ลิตร" นายชัยวัฒน์ กล่าว
          ทั้งนี้ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลของ ปตท.ในวันพรุ่งนี้เป็นดังนี้ เบนซิน 95 ลิตรละ 35.59 บาท, เบนซิน 91 ลิตรละ 34.49 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 31.59 บาท, แก๊สโซฮอล์ ลิตรละ 34.49 บาท และดีเซลลิตรละ 32.44 บาท
          เนื่องจากทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องแตะระดับสูงสุด(New High) ทุกชนิด โดยในวันนี้ราคาน้ำมันดิบดูไบ ขึ้นมาอยู่ที่ 106.42 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล(สูงถึง 6.83 เหรียญฯ) น้ำมันเบนซินขึ้นมาถึง 120.42 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล(สูงถึง 4.06 เหรียญฯ) และน้ำมันดีเซลขึ้นมาสูงสุดถึง 143.77 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล(สูงถึง 8.12 เหรียญสหรัฐฯ) จากเหตุประท้วงบริเวณท่าขนส่งน้ำมัน Fos-Lavera ประเทศฝรั่งเศส ส่งผลให้เรือขนส่งปิโตรเลียมไม่สามารถผ่านเข้าออกได้ตามปกติ 
          นอกจากนี้ยังมาจากข่าวเหตุระเบิดพลีชีพทางภาคเหนือของอิรัก ประกอบกับโรงกลั่น Maoming ของจีนได้ปิดฉุกเฉินเนื่องจากเกิดเหตุระเบิด(มีกำลังผลิต 270,000 บาร์เรล/วัน) ส่งผลให้จีนต้องนำเข้าน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นประมาณ 20%(อยู่ที่ระดับ 450,000 บาร์เรล) ขณะที่ IES รายงานว่าปริมาณสำรองน้ำมันของประเทศสิงคโปร์ ลดลงถึง 552,000 บาร์เรล
          นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า แม้จะปรับขึ้นราคาในครั้งนี้แล้ว ปตท.ยังคงต้องแบกรับภาระจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอยู่อีกถึงลิตรละ 2 บาท หรือวันละ 50 ล้านบาท
          สำหรับท่าทีของผู้ค้าน้ำมันรายอื่นนั้น บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) ได้ปรับราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศทุกผลิตภัณฑ์ขึ้นมาเท่ากับ ปตท. ส่วนเอสโซ่และคาลเท็กซ์ปรับราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศทุกผลิตภัณฑ์ขึ้นมาเท่ากับเชลล์ แต่ราคาดีเซลยังสูงกว่า ปตท.ลิตรละ 50 สตางค์ โดยอยู่ที่ลิตรละ 32.94 บาท